| ที่มา | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
|---|
ยักษ์รับเหมาใจชื้น ! รถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่มาตามนัด รฟม.ดีเดย์ 6 ก.ค.ขายซองประมูล 3 สาย 3 สี “ส้ม-ชมพู-เหลือง” มูลค่า 1.85 แสนล้าน คาดปีหน้าเซ็นสัญญาก่อสร้าง เร่งหมุนเงินกว่า 2 หมื่นล้าน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ร.ฟ.ท.เข็นสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพรสำเร็จ หลังติดล็อก คตร. ไม่เกิน 15 ก.ค.ประกาศขายซอง พร้อมตอกเข็มปลายปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในเดือน ก.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมมีโครงการใหญ่เปิดประมูล 4 โครงการ เป็นโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย และรถไฟทางคู่ 1 สาย วงเงินรวม 201,948 ล้านบาท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเอกชน
รฟม.เทกระจาดรถไฟฟ้า 3 สาย
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ รฟม.อยู่ระหว่างเปิดประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย วงเงิน 185,418 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม. วงเงิน 53,490 ล้านบาท และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 29.1 กม. วงเงิน 51,810 ล้านบาท ซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลจะให้เอกชนร่วมลงทุนรูปแบบ PPP Net Cost
“ทั้ง 2 โครงการจะเปิดให้เอกชนที่สนใจซื้อเอกสารประกวดราคาระหว่างวันที่ 6 ก.ค. ถึงวันที่ 5 ส.ค.นี้ จากนั้นเปิดให้ยื่นเอกสารในวันที่ 7 พ.ย. และเปิดซองข้อเสนอวันที่ 17 พ.ย.นี้”
นายพีระยุทธกล่าวว่า ซึ่งเงื่อนไขการลงทุน รฟม.จะดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสนับสนุนค่างานโยธาสายสีชมพูในวงเงินไม่เกิน 20,135 ล้านบาท และสายสีเหลืองไม่เกิน 22,354 ล้านบาท โดยให้สัมปทานเอกชนลงทุนออกแบบและก่อสร้างงานโยธา จัดหาระบบรถไฟฟ้า ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษากับผู้รับสัมปทานโครงการ โดยเจรจาคัดเลือกตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ปี 2556 ซึ่งเอกชนรายไหนที่ให้รัฐสนับสนุนโครงการน้อยที่สุดจะได้รับคัดเลือก
เปิดเนื้องานสายสีชมพู-เหลือง
เมื่อได้เอกชนแล้วจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น2ระยะคือระยะที่1ออกแบบและก่อสร้างงานโยธา จัดหา ติดตั้ง ทดสอบระบบรถไฟฟ้า ไม่เกิน 3 ปี 3 เดือน และระยะที่ 2 การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง ระยะเวลา 30 ปี โดยเอกชนจะเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสาร ค่าที่จอดรถ และรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์จนสิ้นสุดสัมปทาน
นายพีระยุทธกล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดการก่อสร้างสายสีชมพู เป็นโครงสร้างทางยกระดับตลอดเส้นทาง มี 30 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง อาคารจอดรถและอาคารจอดแล้วจร 1 แห่งที่มีนบุรี รวมถึงมีงานปรับย้ายสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และทางเชื่อมต่อสกายวอล์กกับสถานีศูนย์ราชการนนทบุรีของสายสีม่วง ปรับแนวบริเวณทางด่วนศรีรัชลดการเวนคืน ปรับย้ายสถานีนพรัตนราชธานี เป็นต้น
ส่วนสายสีเหลือง งานก่อสร้างเป็นโครงสร้างทางยกระดับ สถานี 23 สถานี โรงซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดและจร 1 แห่ง อีกทั้งยังมีงานปรับปรุงโครงสร้างสะพานข้ามแยกบางกะปิ สะพานข้ามคลองแสนแสบ สะพานข้ามแยกพรีเมียร์ ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดแยกพัฒนาการ งานรื้อย้ายและก่อสร้างอาคารและระบบสาธารณูปโภคภายในพื้นที่แขวงทางหลวงสมุทรปราการ และปรับปรุงระบบระบายน้ำบนถนนศรีนครินทร์
ดีเดย์15-29 ก.ค.ขายซองสีส้ม
นายพีระยุทธกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา รฟม.ได้ออกประกาศคุณสมบัติผู้รับเหมาประกวดราคาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ระยะทาง 21.2 กม. กรอบวงเงิน 80,118 ล้านบาท แยกเป็น ราคากลางค่างานโยธา 76,632 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 3,486 ล้านบาท มีทั้งหมด 6 สัญญา จะเปิดขายซองวันที่ 15-29 ก.ค. และยื่นซองวันที่ 31 ต.ค.นี้
สำหรับงาน 6 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 คือ งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน 3 สถานี ช่วงสถานีศูนย์วัฒนธรรม-สถานีรามคำแหง 12 วงเงิน 20,735 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน 4 สถานี ช่วงสถานีรามคำแหง 12-สถานีหัวหมาก วงเงิน 21,604 ล้านบาท, สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน 3 สถานี ช่วงสถานีหัวหมาก-สถานีบ้านม้า วงเงิน 18,655 ล้านบาท
สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงสถานีบ้านม้า-สถานีสุวินทวงศ์ และสถานี 7 สถานี วงเงิน 10,025 ล้าน, สัญญาที่ 5 งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร วงเงิน 4,915 ล้านบาท และสัญญาที่ 6 งานระบบรางช่วงสถานีศูนย์วัฒนธรรม-สถานีสุวินทวงศ์ 3,790 ล้านบาท
“การประมูลรถไฟฟ้า 3 สาย เป็นไปตามแผนที่วางไว้จะเริ่มในเดือน ก.ค. แต่การเซ็นสัญญาก่อสร้างจะเป็นปีหน้า เพราะขั้นตอนประมูลโครงการใหญ่จะใช้เวลาพอสมควร คาดว่าสายสีส้มจะเซ็นสัญญาได้ประมาณ ม.ค.-ก.พ. 2560 ส่วนสายสีชมพูกับเหลืองจะช้านิดหนึ่งเพราะเป็นการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วม PPP โครงการ น่าจะเซ็นสัญญาได้ เม.ย. ซึ่งเม็ดเงินจะไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ปีหน้าเป็นต้นไปกว่า 2 หมื่นล้าน จากรถไฟฟ้า 3 สายดังกล่าว”
ได้ฤกษ์ทางคู่ประจวบฯ-ชุมพร
นายกมล ตั้งกิจเจริญชัย รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างทีโออาร์ประมูลรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 16,530 ล้านบาท คาดว่ากลางเดือน ก.ค.นี้จะเปิดขายเอกสารประกวดราคา และเปิดให้ยื่นซองราคาได้เดือน ส.ค. และได้ผู้รับเหมาเดือน ก.ย.เริ่มก่อสร้างปลายปีนี้
เนื้องานโครงการจะสร้างทางวิ่งรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง เป็นทางระดับพื้นขนานไปกับทางรถไฟเดิม และมีช่วงที่เปลี่ยนแนวเส้นทางจากแนวทางรถไฟเดิม 3 ช่วง ระยะทางรวม 167 กม. มีสะพานรถไฟ 115 แห่ง มีสถานีรถไฟ 20 สถานี ที่หยุดรถ 7 แห่ง และป้ายหยุดรถ 1 แห่ง งานก่อสร้างย่านเก็บกองและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ สถานีหว้ากอ สถานีนาผักขวง สถานีมาบอำมฤต และสถานีสะพลี
บิ๊กรับเหมาตบเท้าชิงเค้ก
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอสซี) กล่าวว่า บริษัทจะซื้อซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองแน่นอน จะร่วมกับ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น และผู้ผลิตรถโมโนเรลจากประเทศจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และบอมบาดิเอร์จากแคนาดา ซึ่งการคัดเลือกระบบจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังงานก่อสร้างเริ่มไปแล้ว ซึ่งการยื่นข้อเสนอทางบริษัทจะยังไม่ระบุจะใช้ระบบของประเทศไหน
นายถถภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทยฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมรอประมูลโมโนเรลสายสีชมพูกับสีเหลืองที่ร่วมกับบีทีเอสซี รวมถึงยังสนใจจะยื่นประมูลทั้งรถไฟทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และรถไฟฟ้าสายสีส้มด้วย
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ กล่าวว่า จะเข้าร่วมประมูลงานใหญ่ของภาครัฐทุกโปรเจ็กต์ โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองจะร่วมกับผู้ผลิตระบบรถจากประเทศฝรั่งเศส
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานบริหาร บมจ.ช.การช่าง กล่าวว่า บริษัทจะเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่ของรัฐทุกโครงการ ทั้งทางคู่ มอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ในส่วนของโมโนเรลสายสีพพพพพชมพูกับเหลืองอาจจะต้องมีพันธมิตรร่วมด้วย เช่น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีความเชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ส่วนสายสีส้มที่มีทั้งงานอุโมงค์และทางยกระดับ ทาง ช.การช่างก็มีความถนัดเพราะเคยสร้างอุโมงค์ใต้ดินสายสีน้ำเงิน
