‘จุรินทร์’ ระดม 13 ฝ่ายด้านพาณิชย์ เตรียมเวชภัณฑ์ป้องกันโควิด ให้แพทย์พยาบาลมีใช้พอ

แฟ้มภาพ

‘จุรินทร์’ ระดม 13 ฝ่ายด้านพาณิชย์ เตรียมเวชภัณฑ์ป้องกันภัยโควิด-เปลี่ยนวิธีกระจายหน้ากาก ให้แพทย์พยาบาลมีใช้ให้พอเพื่อทัพหน้าที่เสี่ยงสุด ที่เหลือให้ผู้ว่าฯกระจายแจกกลุ่มเสี่ยงอื่นรวมทั้งประชาชนในพื้นที่พร้อมรณรงค์คนทั่วไปไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงเน้นใช้หน้ากากผ้าและหน้ากากทางเลือก

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (20 มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน โดยมีตัวแทนจาก 13 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข (กรมควบคุมโรค และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร สมาคมโรงพยาบาลเอกชน กลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องเวชภัณฑ์ป้องกันชนิดต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในสถานพยาบาลต่างๆ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็นสูงสุดที่จะต้องมีเวชภัณฑ์ป้องกันเพียงพอ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความปลอดภัย

โดยเวชภัณฑ์ป้องกันที่ได้มีการหารือในที่ประชุมประกอบด้วย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการในเรื่องของปริมาณการผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของผู้มีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่งขณะนี้กรมสรรพสามิตได้อนุญาตให้นำเอาเอทานอล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญมาเป็นส่วนผสมและจำหน่ายได้แล้ว แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องบรรจุภัณฑ์ คือขวด และหัวปั๊ม ซึ่งขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังประสานงานให้เปลี่ยนเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะผลิตแอลกอฮอล์ 70% ให้นำมาใช้ทดแทนคู่ขนานกันไปได้ด้วย

Advertisement

ส่วน หน้ากาก N95 ขนาดหนาชนิดที่ใช้ในการแพทย์ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะกระจายให้เพียงพอในสถานพยาบาลต่อไป ส่วน ชุด PPE (ชุดคลุมป้องกัน) ทางการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขจะรับผิดชอบในการจัดหาและกระจายไปยังโรงพยาบาลทุกสังกัดทั่วประเทศ ขณะเดียวกันขณะนี้ทางการจีนแจ้งมาว่าจะช่วยบริจาคชุด PPE ให้ประเทศไทยจำนวน 2,000 ชุด หลังจากที่มีการเจรจากับอุปทูตจีน

นายจุรินทร์ระบุว่า สำหรับ ถุงมือแพทย์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยืนยันกับที่ประชุมว่ายังมีเพียงพอ สำหรับ ที่วัดไข้ หรือเทอร์โมมิเตอร์ โดยทาง อย.จะรับเป็นเจ้าภาพในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะขอนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย พร้อมกับจะทำการเร่งรัดการดำเนินการอนุญาต และปรับปรุงกฎระเบียบให้สามารถนำเข้ามาได้ง่ายขึ้น

ส่วนเรื่องหน้ากากอนามัยที่ใช้ในการแพทย์ ที่ประชุมมีความเห็นว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของโควิดเปลี่ยนไป และมีการแพร่กระจายมากขึ้น และขณะนี้ได้มีประกาศแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในการจัดการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อที่มีความชัดเจนแล้ว โดยในระดับจังหวัดจะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการดูแลและสถานการณ์นี้ในระดับพื้นที่

Advertisement

ที่ประชุมจึงมีความเห็นว่า ในเรื่องของการจัดสรรหน้ากากอนามัยทางการแพทย์นั้น ควรจะจัดสรรให้กับสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยเป็นหลัก เพื่อให้มีใช้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีผลต่อการแพร่กระจายโควิดหรือการแพร่ระบาดไปในวงกว้าง ให้ได้รับหน้ากากอนามัยในการป้องกันได้ จึงมีความเห็นว่าในการกระจายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไปยังสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในทุกสังกัดนั้น ควรที่จะให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบในการกระจายไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่เหลือในการกระจายให้กับกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการพิจารณาว่าในแต่ละจังหวัดนั้นควรกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงกลุ่มใดบ้าง

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนทั่วไป รัฐบาลรณรงค์ให้ควรมุ่งเน้นให้หันไปใช้หน้ากากทางเลือก โดยเฉพาะหน้ากากผ้าที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมมาเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้มีหลายหน่วยงานกำลังเร่งการผลิตอยู่

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image