‘ลุงป่วยโควิด’ ดับบนรถไฟ บินจากปากีสถานลงสุวรรณภูมิ ทั้งไอ -สัมผัสใกล้ชิดหลายคน เร่งตามหาแท็กซีแกร็บ

จากกรณีผู้โดยสารรถไฟเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ระหว่างเดินทางไปสุไหงโกลก ต่อมาพบว่า ผลแล็บผู้โดยสารวัย 57 ปีรายนี่ มีเชื้อไวรัสโควิด-19 และพบคลิปไอใส่ผู้อื่น และเดินสวนระยะใกล้กับสตรีสวมเสื้อเหลือง รวมถึงใกล้ชิดพนักงานรถเข็นที่สนามบินสุวรรณภูมิระหว่างรอกระเป๋า และนั่งแท็กซีนั่งต่อไปที่พักย่านบางกะปิ รุ่งขึ้นเรียกแท็กซีแกร็บไปส่งสถานีรถไฟบางซื่อเพื่อกลับภาคใต้

นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยาสุวรรณภูมิ ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยถึงกรณีที่ชาวสุไหงโกลกอายุ 57 ปี ที่กลับจากปากีสถานติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตบนรถไฟว่า สนามบินสุวรรณภูมิได้ทำการตรวจสอบประวัติการเดินทางของผู้ตาย พบว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางมาจากกรุงอิสลามมาบัด ประเทศปากีสถาน ด้วยเที่ยวบิน TG350 เดินทางมาถึงไทยเวลาประมาณ 06.00น. ของวันที่ 29 มี.ค.

โดยเมื่อเดินทางมาถึงได้ขอรับบริการวีลแชร์จากทางสนามบิน เนื่องจากมีอาการขาไม่ดีเดินขากระเผลก ซึ่งสนามบินได้ส่งเจ้าหน้าที่วีลแชร์ไปให้บริการและเข็นชายคนดังกล่าวไปรอรับกระเป๋าบริเวณสายพานรับกระเป๋า ซึ่งในเที่ยวบินดังกล่าวมีคนเดินทางมาจำนวนมาก ทำให้ต้องรอกระเป๋านานกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่สัมผัสใกล้ชิดกับชายคนดังกล่าวเป็นเวลานาน จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขอให้เจ้าหน้าที่เข็นรถไปยังจุดเรียกแท็กซี่ เพื่อเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ

เนื่องจากชายคนดังกล่าวได้สัมผัสใกล้ชิดกับพนักงานเข็นรถและแท็กซี่ ที่ให้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินจึงได้พยายามติดต่อบุคคลทั้ง 2 และล่าสุดตามตัวเจอทั้งหมดแล้ว โดยเมื่อเช้าวันนี้ (2 มี.ค.) เวลาประมาณ 08.00 น.ได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคให้เข้ามาทำการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่รถเข็น และแท็กซี่ที่ให้บริการชายคนดังกล่าว คาดว่าจะทราบผลภายใน 8-10 ชั่วโมง หรือภายในช่วงเย็นวันนี้

Advertisement

นายฐากูร อินทรชม ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ขณะนี้ รฟท. ได้ตามตัวชายที่ถูกผู้ตายไอรดใส่ได้แล้ว โดยชายคนดังกล่าวได้มาขอติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอคืนเงินตั๋วโดยสารจำนวน 4 ใบ แต่เพื่อความแน่ใจชายคนที่ถูกไอรดจะขอเข้ามาดูCCTVเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งในวันนี้ จากนั้นจะต้องกักตัวและสังเกตพฤติกรรมต่อไป ส่วนผู้หญิงเสื้อเหลืองที่มีการเดินสวนกับชายคนดังกล่าวได้ประสานให้ตำรวจช่วยตามตัวแล้ว

ทั้งนี้จากการสอบประวัติการเดินทางของผู้ตายพบว่า เดินทางกลับมาจากปากีสถาน และถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 06.00 น ของวันที่29 มี.ค. จากนั้นได้ขึ้นรถแท็กซี่เดินทางต่อไปเข้าพักยังโรงแรมมุสลิม โฮม 2 (Muslim Home 2). 1 (2321) ซอยรามคำแหง 59 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ไม่ได้ออกไปไหนสั่งอาหารขึ้นมากินบนห้องและพักอยู่จนถึงวันรุ่งขึ้น คือ30มี.ค. โดยในช่วงบ่ายได้เรียกรถแท็กซี่แกร็บเดินทางออกจากโรงแรมไปยังสถานีรถไฟบางซื่อ

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังประสานหาบุคคลที่สัมผัสใกล้ชิด ทั้งพนักงานมีโรงแรม รวมทั้งแท็กซี่แกร็บที่ไปส่งผู้เสียชีวิตในวันนั้น แต่ในส่วนของคนขับแกร็บนั้นยังหาไม่เจอ หากอ่านข่าวหรือพบว่าได้เคยไปรับชายคนดังกล่าวจากโรงแรมดังกล่าวในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ก็ขอให้คนขับแกร็บกักตัวและเฝ้าระวังตนเองเพื่อสังเกตพฤติกรรม 14 วันด้วย”

ขอบคุณข่าวสด

อ่านข่าว ไม่ใช่แค่หนุ่มที่โดนไอรดหน้า ตามหาผู้หญิงเสื้อเหลืองอีกรายที่เดินสวนกับลุง หวั่นติดโควิด

อ่านข่าว เปิดคลิป ลุงติดโควิดเสียชีวิตบนรถไฟไอใส่หน้าหนุ่มที่สถานีขณะซื้อตั๋ว

อ่านข่าว ติดโควิด-19 รายที่ 13!! ผลตรวจหนุ่มใหญ่กลับจากปากีสถานดับปริศนาบนรถไฟสายใต้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image