นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยในรายการคลุกวงหุ้นว่า ภาพรวมตลาดหุ้นประจำสัปดาห์นี้ ประเมินว่าต้องติดตามต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยสามารถยืนแข็งแกร่งอยู่เหนือระดับ 1,200 จุดได้ ต้องติดตาม ว่าหากสัปดาห์นี้ดัชนียังสามารถไต่ระดับขึ้นได้ ก็มีโอกาสลุ้นว่า หุ้นไทยอาจกลับมาเป็นขาขึ้นเล็กๆ ได้ โดยแนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ 1,300 จุด
นางสาววิลาสินีกล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศ ที่ภาพรวมดูดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยที่ทำให้เกิดความกังวลเล็กน้อย ในส่วนของการที่เชื้อไวรัสจะกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งหรือไม่ อาทิ ที่จีนได้เปิดประเทศกลับมาเกือบเป็นปกติแล้ว และได้อนุญาตให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวได้ จึงเห็นภาพการรวมตัวของพลเมืองอย่างหนาแน่น ซึ่งอาจเป็นแรงสนับสนุนให้ความเสี่ยงมีมากขึ้นได้
ส่วนในประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ก็อาจมาจากผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศ แล้วกลับเข้ามา ทำให้หากสามารถป้องกันส่วนนี้ได้ ก็น่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ เพราะอย่างที่รัฐบาลประกาศมาตรการล็อกดาวน์ หรือปิดเมืองไปในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้
สำหรับมาตรการเยียวยาและพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ เบื้องต้นต้องมองเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มลูกจ้างที่ขาดรายได้หรือไม่มีรายได้เข้ามาแล้ว ซึ่งมาตรการที่ออกมา ก็อาจช่วยต่อลมหายใจให้กับกลุ่มลูกจ้างได้ ส่วนฝั่งผู้ประกอบการ หากมีมาตรการในการช่วยเหลือด้านภาษี และการเลื่อนชำระหนี้ เพื่อลดโอกาสในการเป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) รวมถึงฝั่งแบงก์ก็ได้รับการเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคาร เพื่อช่วยไม่ให้สภาพคล่องของบริษัทย่ำแย่ไปด้วย ซึ่งในช่วง 3-6 เดือนนี้ น่าจะยังเลี้ยงตัวเองต่อไปได้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้เสียต่อไป
“เม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (เอสเอสเอฟเอ็กซ์) ที่เปิดขายในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เป็นการเปิดขายในระยะสั้นๆ แต่ถือครองการลงทุนในระยะยาว โดยประเมินว่าน่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาช่วยพยุงตลาดหุ้นได้บ้าง เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีเงื่อนไขในการเน้นลงทุนหุ้นไทยสัดส่วน 65% ในส่วนของกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ ประเมินผลบวกจากการเก็งว่าเม็ดเงินของกองทุนเอสเอสเอฟเอ็กซ์ จะเข้าลงทุนในหุ้นตัวใดหรือกลุ่มใด ซึ่งเบื้องต้นมองว่าน่าจะเป็นหุ้นใหญ่ อยู่ใน 50 อันดับแรก หรือ 100 อันดับแรก ที่ได้รับความนิยมมากสุด รวมถึงมีราคาที่ปรับลดลงมามากในช่วงที่ผ่านมา และต้องมีการปันผลที่ดูดีด้วย”นางสาววิลาสินีกล่าว
ส่วนหุ้นเด่นจะเป็นตัวไหน ต้องติดตามในรายการคลุกวงหุ้น!
