“ศักดิ์สยาม”มอบนโยบายผู้ว่ารถไฟคนใหม่ สานต่องานทุกโครงการ ด้าน“นิรุฒ” พร้อมเร่งหน้าเมกะโปรเจ็กต์ ลุยแผนฟื้นฟูแก้ขาดทุน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังนายนิรุฒ มณีพันธ์ ว่าที่ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เข้าพบว่า หลักในการทำงานที่ตนให้นโยบายกับผู้ว่า รฟท.คนใหม่คือ ให้ทำงานสานต่อโครงการที่รัฐบาล และกระทรวงคมนาคมดำเนินการอยู่ ตามเป้าหมายด้วยหลักธรรมภิบาล โปร่งใส รวมทั้งให้เร่งรัดการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงให้มีการประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ร่วมงาน พนักงาน รฟท.แบบทลายทุกข้อจำกัดให้เกิดประสิทธิภาพ ไร้ปัญหา หรือให้เกิดน้อยที่สุด ที่สำคัญการทำงานต้องอยู่บนพื้นฐานระเบียบข้อกฎหมายเป็นหลักสำคัญ
นายนิรุฒ กล่าวว่า ขณะนี้ ครม.ได้มีมติแต่งตั้งตนให้เข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่า รฟท. คนใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือรอเซ็นสัญญา คาดว่าน่าจะภายในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า โดยงานแรก คือ จะขอพบพนักงาน รฟท. และสหภาพ รฟท.ก่อน เพื่อทำความรู้จักกันและเข้าใจสิ่งที่ตนจะเข้ามาทำงานร่วมด้วย
โดยเป้าหมายแรกที่สำคัญของตน คือ การเข้ามาดูแลปรับปรุงสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ที่พนักงาน รฟท.ควรจะได้รับ ซึ่งตนต้องการที่จะให้พนักงานรฟท.มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เนื่องจากพนักงาน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะผลักดันรถไฟไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ และเป็นตัวจักรสำคัญในการหารายได้ บริการการคมนาคมขนส่งคนทุกประเภท ทั่วประเทศ
นายนิรุฒกล่าวว่า นอกจากนั้นตนจะเข้ามาดูแลในเรื่องของการแก้ไขปัญหา ลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างจริงจัง พร้อมจัดสุขอนามัยที่ดีให้กับพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปโดยเร็ว ในส่วนของการให้บริการในช่วงที่มีโควิดแพร่ระบาดก็จะต้องจัดขบวนรถให้บริการเท่าที่จำเป็น หากจะหยุดให้บริการเลยก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก รถไฟถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ
นายนิรุฒกล่าวว่า ส่วนการสานงานต่อในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆที่ รฟท.ดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟทางคู่ , รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้าเชื่อมสามสนามบินนั้น จะยังคงเดินหน้าสานต่องานเดิมที่มีให้เป็นไปตามเป้าหมายนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม
“ไม่ได้รู้สึกหนักใจกับปัญหาภาวะขาดทุน เนื่องจากเป้าหมายในการทำงานต้องการเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาอยู่แล้ว โดยขอเวลาศึกษารายละเอียดงานทั้งแผนฟื้นฟู เพื่อที่จะให้ รฟท.เดินหน้าพ้นจากปัญหาการขาดทุนสะสมกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากลงนามในสัญญาจ้างกลางเดือน เม.ย.นี้ก็จะเริ่มงานทันทีเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการมากมาย” นายนิรุฒกล่าว
รายงานข่าวจากรฟท.แจ้งว่า สำหรับโครงการสำคัญของ รฟท.ที่ต้องเร่งดำเนินงานนั้น แบ่งเป็น โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ รถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 โครงการ, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน( ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา),โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ,รถไฟชานเมืองสายสีแดง 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงบางซื่อ-รังสิต และงานเดินรถ และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
ทั้งนี้ ในส่วนโครงการที่เตรียมเปิดประมูลและผลักดันให้ ครม.เห็นชอบ ได้แก่ รถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 ช่วง คือ ช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ,ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ,ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช, ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และบางซื่อ-หัวหมาก
โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 โครงการ คือ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และช่วงบางไผ่-มุกดาหาร-นครพนม นอกจากนี้ยังมี รถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย, ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่, ช่วงขอนแก่น-หนองคาย, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี, ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี, ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา, ช่วงชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ วงเงินรวมทั้งสิ้น 493,149 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า นายนิรุฒ เตรียมที่จะเข้าเซ็นสัญญาภายในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะเริ่มทำงานวันแรกในวันที่ 24 เม.ย.นี้