เอกชนเสนอเปิดเฟสพื้นที่โซนสีหลัง พ.ร.ก.ฉุกเฉินหมดลง
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 15 เมษายน นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุมทางไกลวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้แต่ละฝ่ายได้นำเสนอความคืบหน้าของสถานการณ์ของภาคเอกชนและการดูแลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อจัดทำข้อสรุปและนำเสนอต่อที่ประชุมภาครัฐและเอกชน ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 20 เมษายนนี้ ว่า หน่วยงานต่างๆเห็นชอบร่วมกันที่จะยึดข้อมูลทางสาธารณสุขเป็นหลัก ที่ได้มีการกำหนดพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.พื้นที่สีเขียวหรือจังหวัดที่ไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 2.พื้นที่สีเหลืองหรือจังหวัดที่มีการระบาดบางส่วนและไม่ใช่อัตราที่สูงจนน่าวิตก และ 3.พื้นที่สีแดงหรือจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดในอัตราสูงและมีแนวโน้มยังรุนแรง จากนั้นก็จะดูว่าแต่ละกลุ่มธุรกิจนั้นมีอัตราความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและมีจำนวนผู้ให้บริการหรือรับบริการในแต่ละครั้งเป็นจำนวนคนเท่าไหร่ มีโอกาสเสี่ยงหรือไม่ อย่างไร
“เบื้องต้นพื้นที่สีเขียวก็น่าจะเป็นพื้นที่ผ่อนปรนเปิดให้กบริการได้ตามปกติ โดยเปิดครบทั้งจังหวัดและทุกธุรกิจบริการ ถ้าเป็นพื้นที่สีเหลืองก็จะพิจารณาบางพื้นที่ที่ไม่มีการแพร่ระบาดและอาจผ่อนปรนในธุรกิจบริการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากหรือเข้าใช้บริการพร้อมกัน โดยจะมีการนำเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นในการติดตามตัว เช่น แอพพ์หมอชนะในการติดตามการแพร่ระบาดของพื้นที่ และมีแอพพลิเคชั่นติดตามว่าธุรกิจนั้นๆ เพื่อเปิดให้บริการแล้ว ได้ดำเนินการตามที่ได้กำหนดวิธีการดูแลหรือขั้นตอนต่างๆ ที่ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือไม่ หากพบว่าละเลยก็จะแบนธุรกิจนั้นไว้ก่อน” นายกลินท์กล่าว
นายกลินท์กล่าวว่า คงต้องมีการหารือลงในรายละเอียดเพิ่มเติมจากนั้นจนกว่าจะถึงการประชุมร่วมกับรัฐบาลในวันที่ 20 เมษายน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องรอความเห็นชอบจากที่ประชุม โดยในข้อเสนออยากให้ผ่อนผันในเรื่องกิจกรรมและพิจารณาให้เปิดบริการได้หลังจากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินสิ้นสุดลง ซึ่งบางธุรกิจบริการเห็นว่าหากมีการป้องกันดีๆและกำหนดมาตรการการดูแลเข้มงวดก็น่าจะเปิดได้ เช่น ร้านทำผม ก็ต้องนัดเวลา ทั้งผู้รับบริการและให้บริการต้องปิดแมสก์ ภายในสถานที่เปิดโล่ง และมีการฆ่าเชื้อ และใช้เวลาการให้บริการไม่นานจนเกินไป หรือร้านอาหาร ก็ใช้วิธีการเว้นระยะห่าง เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของตนดูแลในเรื่องโลจิสติกส์และภาคบริการ ซึ่งจะนำข้อเสนอไปรวมกับอีก 4 กลุ่มที่มีการประชุมหารือ และหาข้อสรุปที่เหมาะสมกับประเด็นนั้นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ได้หารือ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) หอการค้าส่วนกลางและต่างจังหวัด สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สมาคมค้าปลีกไทย สมาคมโรงแรม ธุรกิจด้านท่องเที่ยว ธุรกิจภาคบริการด้านต่างๆ กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มทางการแพทย์ เป็นต้น
