น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ พายุฤดูร้อนอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ทั้งนี้ คาดว่าช่วงวันที่ 16-21 เมษายน 2563 ทั่วประเทศจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ ส่วนวันที่ 22 เมษายน 2563 คาดว่า จะมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะทำให้เกิดฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ตามลำดับ โดยจะส่งผลกระทบรุนแรงน้อยกว่าพายุฤดูร้อนที่ผ่านมา
“ผลกระทบจากมวลอากาศเย็นในวันที่ 22 เมษายนดังกล่าว อาจส่งทำให้วันที่ 27 เมษายน 2563 ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง มีอุณหภูมิลดลง จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะเป็นวันที่ร้อนจัด โดยอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 43 องศาเซลเซียส จากอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ 37-38 องศาเซลเซียส ซึ่งในภาพรวมประเทศไทยจะมีอากาศร้อนต่อเนื่องถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งจะช่วยลดการกระจายตัวของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ อาจมีฝนฟ้าคะนองเป็นระลอกขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพ และระมัดระวังโรคไข้หวัด” น.อ.สมศักดิ์ กล่าว
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับช่วงวันที่ 16-17 เมษายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่งผลทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางพื้นที่
โดยภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก มีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10-30% ของพื้นที่ ส่วนภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย) และภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) มีฝนฟ้าคะนอง 20-40% ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักและลมกรโชกแรงบางพื้นที่
ส่วนช่วงวันที่ 18-21 เมษายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และภาคใต้จะมีฝนลดลง โดยภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิต่ำสุด 20-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-42 องศาเซลเซียส ขณะที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-41 องศาเซลเซียส
สำหรับภาคตะวันออก มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ขณะที่ ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย) และภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) มีฝนฟ้าคะนอง 10-20% ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส