“ไลน์” แนะทางออกผู้ปประกอบการ หลังพบช่วงโควิดผู้บริโภคใช้บริการแพลตฟอร์มมากขึ้น มั่นใจพฤติกรรมนี้จะถาวรในอนาคต

พบพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์มของ LINE ชี้ชัดพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และมีผู้บริโภคกลุ่มใหม่หันมาช้อป-ใช้บนโลกออนไลน์ และพฤติกรรมนี้จะกลายเป็นพฤติกรรมถาวรต่อไป  

นายพฤทธิสิทธิ์ ประทีปะวณิช หัวหน้าฝ่ายจัดการแพลตฟอร์มและบริการ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าคนไทยมีการโทรผ่าน LINE มากขึ้น ทั้งการใช้บริการโทรฟรีและวิดีโอคอลผ่าน LINE ที่เพิ่มขึ้นกว่า 236% และ 270% ตามลำดับ สิ่งที่น่าสนใจคือ คนไทยใช้งานการโทรผ่าน LINE บนคอมพิวเตอร์เพิ่มสูงขึ้นถึง 264% ในช่วงเดือนมีนาคม เนื่องจากมีการเพิ่มฟีเจอร์แชร์หน้าจอระหว่างการโทร ที่ LINE ตั้งใจพัฒนามาเพื่อสนับสนุนการทำงานจากที่บ้านในสถานการณ์ดังกล่าว

นายกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า  LINE TODAY ที่ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักของคนไทยในการรับข่าวสารที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ท่ามกลางข้อมูลจากโซเชียลมีเดียมากมายที่อาจสร้างความสับสน โดย LINE ได้เพิ่มแท็บข่าว ‘โควิด-19’ โดยเฉพาะบน LINE TODAY เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคไทยในสถานการณ์นี้ และพบว่ามีการเข้ามาอ่านเพิ่มขึ้นถึง เท่า ส่วน LINE TV ผู้บริโภคไทยบน LINE TV มีพฤติกรรมการรับชมที่เปลี่ยนไปคือรับชมผ่านจอใหญ่มากขึ้นถึง 42% ในเดือนมีนาคม เนื่องจากคนไทยเข้าสู่สภาวะการทำงานที่บ้าน ทำให้เกิดเทรนด์การดู LINE TV ร่วมกับครอบครัวมากขึ้นและนานขึ้น ต่อมาคือความนิยมของซีรีส์วาย (ชายรักชาย) ที่เติบโตสูงถึง เท่า โดยมีกลุ่มผู้ชมหลักคือผู้หญิงวัย 18-34 ปี แต่สิ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มผู้ชมที่อันดับรองลงมาเป็นกลุ่มผู้หญิงวัย 55 ขึ้นไป แสดงให้เห็นว่าการดูคอนเทนต์ LINE TV ร่วมกับครอบครัว ได้ส่งผลให้กลุ่มคนสูงอายุสามารถเข้าถึงและเปิดรับคอนเทนต์แนวใหม่ได้มากขึ้นไปด้วย โดยคุณกณพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เราพบว่าหลังจากที่เด็กๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน และต้องอยู่บ้าน คอนเทนต์ที่เติบโตคือแอนิเมชัน โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เทียบกับกุมภาพันธ์แล้วนั้น มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 33% และพบว่าวันศุกร์กลายมาเป็นวันที่มีอัตราการรับชมเติบโตสูงที่สุด คือสูงขึ้นถึง 56% สิ่งนี้บ่งบอกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ของเด็กๆ กำลังเพิ่มขึ้นเป็น วัน

” LINE มุ่งจะเรียนรู้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดให้เร็วที่สุด เพื่อจะเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อนำเสนอบริการให้ตอบสนองคนไทยให้ดีที่สุดต่อไป”นายกณพกล่าว

นายธีรวัฒน์ งามวิทยศิริ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจค้าปลีก LINE ประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางการปรับตัวของธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ในช่วงนี้ว่า ทุกธุรกิจต่างได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม สินค้าและบริการหลายประเภทนำเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มมาใช้เป็นเครื่องมือในการปรับตัวจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ เพื่อส่งเสริมการขายให้กลุ่มลูกค้าเดิมหรือขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ สร้างให้เกิด Next New Normal หลังสิ้นสุดวิกฤติครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่แบรนด์อื่นๆ ในไทยควรได้เรียนรู้และปรับใช้ให้สอดคล้องกับธุรกิจตนเอง โดยผู้ประกอบการต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้นำเสนอสินค้าบริการให้ตรงจุดและครบวงจร จากนั้นเดินหน้าสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ด้วยการมุ่งแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า โดยการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Peugeot Thailand ที่มีการเปิด LINE Official Account ช่วยให้ลูกค้าสามารถจองซื้อรถยนต์ผู้บริหารป้ายแดง และนัดหมายส่งรถให้มาทดลองขับถึงบ้าน พร้อมสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้เบ็ดเสร็จโดยไม่ต้องเดินทางมาที่โชว์รูม เช่นเดียวกับกรณีของ OneSiam และ HomePro ที่ใช้ LINE มาเป็นช่องทางการขายสินค้าแทนหน้าร้านที่จำเป็นต้องปิดให้บริการ รวมถึงเป็นช่องทางรักษาความสัมพันธ์และแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งประโยชน์ที่จะได้รับไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดขาย แต่เป็นการเพิ่มโซลูชันใหม่ๆ ให้กับธุรกิจด้วย

Advertisement

นายกฤษณะ งามสม ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณา LINE ประเทศไทย กล่าวว่า สองสิ่งที่ผู้ประกอบการควรเร่งลงมือทำเพื่อฟื้นฟูธุรกิจในอนาคตหลังสถานการณ์ดีขึ้นคือ 1) การสร้างพื้นฐานของช่องทางออนไลน์ให้แข็งแกร่ง และ 2) การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค Online Merges with Offline (OMO) ซึ่งประสบการณ์ออฟไลน์จะกลับเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแรง (Build strong fundamental) โดยหากยิ่งมีจำนวนผู้ติดตามเยอะ ยิ่งทำให้มีข้อได้เปรียบในการขายสินค้า เพราะนั่นคือฐานข้อมูลหรือดาต้า ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปวิเคราะห์ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการขายได้มากกว่า

“LINE พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการ นักการตลาด และนักโฆษณาให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจทั้งระหว่างและหลังจากสถานการณ์ช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน ด้วยโซลูชันโฆษณาและการตลาดต่างๆ ที่อยู่บน LINE ecosystem ที่เพียบพร้อม เชื่อถือได้ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ สำหรับแพลตฟอร์มของ  LINE ผู้ประกอบการสามารถใช้ LINE Offical Account (OA) เป็นเครื่องมือเริ่มต้นในการสร้างฐานลูกค้า และสามารถพิจาณาใช้สติกเกอร์ ซึ่งมีต้นทุนต่ำในการเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสามารถใช้ MyShop เป็นหน้าร้านในการช่วยปิดการขาย โดยขณะนี้ LINE กำลังเดินหน้าปรับรูปแบบและช่องทางการซื้อโฆษณาสำหรับเอสเอ็มอีให้ง่ายขึ้น โดยสามารถกำหนดงบประมาณที่จะสร้างฐานลูกค้าได้ผ่านระบบหลังบ้านได้ทันที” นายกฤษณะ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image