‘กรมปศุสัตว์’ เผยเอกชนบริจาควัคซีน 4 พันโดส หวังคุมกาฬโรคม้า

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า การป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (เอเอชเอส)​ ว่า ตามที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ควบคุมและป้องกันโรคเอเอชเอสในม้าอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จึงได้ร่วมมือกับทุกภาคเอกชน คณาจารย์ คณะสัตวแพทย์จากมหาวิทยลัยต่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันวางแผนและดำเนินการเฝ้าระวังป้องกัน และควบคุมโรค ตั้งแต่ผลการยืนยันทางห้องปฏิบัติการว่าพบโรคเอเอชเอส

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้รับการบริจาควัคซีน จำนวน 4,000 โดส จากนายพงษ์เทพ เจียรวนนท์ อุปนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย รองประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ กรมปศุสัตว์จึงได้นำไปฉีดป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าครั้งแรกของไทย ที่สถานีเพาะเลี้ยงม้าและสัตว์ทดลอง สถานเสาวภา สภากาชาดไทย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดโรค อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นระยะทาง 20 กิโลเมตร และมีม้าจำนวน 560 ตัว ซึ่งม้าดังกล่าวเป็นม้าที่ใช้สำหรับผลิตเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและเซรุ่มแก้พิษงู

ทั้งนี้ จากการติดตามผลการฉีดวัคซีนจากสัตวแพทย์ประจำสถานเสาวภา ปรากฎว่าไม่มีม้าที่แสดงอาการแพ้วัคซีน และจากการตรวจสุขภาพไม่พบสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยเพิ่มขึ้น ดังนั้น กรมปศุสัตว์มีแผนในการฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่ม้าในพื้นที่เกิดโรครัศมี 50 กิโลเมตรจากจุดเกิดโรค และจะขยายการฉีควัคซีนไปยัง 7 จังหวัด ที่พบการแพร่กระจายเชื้อต่อไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงได้มีการจัดการประชุมชี้เแจงแผนการป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเร่งความเข้าใจกับผู้เลี้ยงม้าในพื้นที่เป้าหมายที่จะฉีดวัคซีน ซึ่งวัคซีนป้องกันโรคซึ่งวัคซีนที่ได้รับการบริจาคจะทำการเก็บรักษาไว้ที่สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หากต้องการใช้ ให้ปศุสัตว์จังหวัดทำเรื่องเบิกจ่ายตามแบบฟอร์มผ่านปศุสัตว์เขตและให้ ผอ.สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ เป็นผู้อนุมัติ

Advertisement

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ปศุสัตว์จังหวัดกำกับดูแลการใช้วัคซีน ไม่ให้เกิดการรั่วไหลไปฉีดในสัตว์นอกพื้นที่เป้าหมายตามแผนฯอย่างเคร่งครัด เพราะจะก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อการขอคืนสถานภาพปลอดโรคจากองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (โอไออี) หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด

ด้าน นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม ในฐานะนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับสมาคมขี่ม้าฯ และผู้เลี้ยงม้า คาดว่าหากกรมปศุสัตว์ตรวจพบเจอโรคเร็วกว่านี้เชื่อว่าจำนวนม้าที่ตายจะน้อยกว่าปัจจุบัน หลังจากนี้หากประชาชนพบอาการผิดปกติจากสัตว์ขอให้แจ้งกรมปศุสัตว์ทันที เพื่อให้เกิดการควบคุมที่รวดเร็วต่อไป

“ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียม้าจากการระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า และเชื่อว่าการระบาดของโรคจะยุติในเร็วๆนี้ หากไม่มีการเคลื่อนย้ายม้า หรือทำมุ้งให้ม้าได้อยู่อาศัย ตรวจเลือด และมีการป้องกันด้วยวัคซีนโรคนี้ก็จะสามารถคุมได้ในที่สุด” นายฮาราลด์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image