ตัวแทนธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอผ่อนปรน ให้ขายแบบดิลิเวอรี-ซื้อกลับบ้านได้

7 ตัวแทน ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยื่นจดหมายเปิดผนึก “บิ๊กตู่” ขอผ่อนปรนมาตรการห้ามจำหน่าย ช่วยภาคธุรกิจเครื่องดื่มและร้านอาหาร ให้ซื้อกลับบ้าน หรือส่งให้ถึงบ้านได้เหมือนอาหารประเภทอื่นได้  ร้านคราฟท์เบียร์กว่า 1,000  ร้าน แบกต้นทุนค่าห้องเย็นพิเศษ รักษาเบียร์กว่าเป็นล้านบาทต่อเดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนจากภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 องค์กร ได้แก่ สมาคมผู้ประกอบการไวน์ไทย สมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย สมาคมบาร์เทนเดอร์ประเทศไทย ชมรมผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายคราฟท์เบียร์ ชมรมผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์ ชมรมเบียร์บรูเออร์แห่งประเทศไทย และชมรมผู้ค้าและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และวัตถุดิบทำเบียร์

ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึก ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เพื่อให้ ศบค.และภาครัฐรับทราบความเดือดร้อน ในมุมผู้ประกอบการรายย่อย ที่ประกอบธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเจ้าของธุรกิจร้านอาหานกึ่งผับ บาร์ โดยขอให้มีมาตรการผ่อนปรนอนุญาตให้จำหน่ายแบบกลับบ้าน เฉกเช่นอาหารทั่วไป โดยมีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่อง ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับข้อเรียกร้องขอผ่อนปรน และการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการห้ามจำหน่ายสุรา โดยมีสาระสำคัญ คือ การขอมิให้มีการขยายเวลาห้ามจำหน่ายสุราออกไปหลังวันที่ 30 เม.ย.63 อีก และขอให้ร้านที่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุราสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อซื้อกลับบ้าน หรือส่งให้ถึงบ้านได้เหมือนอาหารประเภทอื่น

Advertisement

ขอให้พิจารณาเรื่องการออกระเบียบปฏิบัติในการขอคืนภาษีและทำลายสินค้าสุราที่เสื่อมสภาพ เนื่องจากการสั่งห้ามเปิดร้านและสถานบันเทิง ส่งผลแก่ผู้นำเข้าและผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยตรง ที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าออกจากสต็อกได้ตามเวลาที่ควรจะเป็น ทำให้สินค้าที่นำเข้าหรือสั่งผลิตมาจำนวนมากบางประเภทกำลังจะหมดอายุ

 

ขอให้พิจารณาผ่อนปรน เรื่องการขนย้ายสุราหากมีการห้ามจำหน่าย เนื่องจากคราฟท์เบียร์ ไวน์องุ่นและสุราแช่หลายชนิดเป็นสินค้าที่ต้องจัดเก็บตามอุณหภูมิที่กำหนด เมื่อมีการนำเข้ามาจึงต้องมีการชำระภาษีและขนย้ายเข้าไปเก็บคลังสินค้าของผู้ประกอบการให้เร็วที่สุด การประกาศห้ามขายส่ง (ใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 1) ทำให้ไม่สามารถนำสินค้าที่เสียภาษีแล้วไปเก็บในคลังของผู้ประกอบการได้ และเกิดภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการเช่าโกดัง รวมถึงปัญหาการควบคุมอุณหภูมิในเขตปลอดภาษี

Advertisement

โดยทั้งนี้ หากมีการประกาศใดๆจากภาครัฐ ขอให้มีการแจ้งล่วงหน้าเพื่อการเตรียมการหรือมีความชัดเจนในเรื่องการขนส่งให้เสร็จสิ้นทันการ เช่น ให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน เพื่อให้สินค้าที่เปิดบิลในวันที่ประกาศ ได้ดำเนินการจัดส่งเสร็จสิ้นภายใน 3 วัน เป็นต้น

การขอผ่อนปรนและเรียกร้องมาตรการเยียวยาจากภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเสียงของผู้ที่ได้รับผลกระทบทางตรงที่ต้องการให้ภาครัฐมองอย่างใจเป็นกลางในมิติของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการจ้างงาน เพราะการที่ภาครัฐประกาศห้ามจำหน่ายสุราด้วยหวังจะป้องปรามการกระทำผิดเฉพาะบุคคล

กำลังกลายเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้บริโภคทั้งประเทศที่เขาเองก็ประพฤติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และหากยังขยายระยะเวลาห้ามจำหน่ายสุราออกไป โดยไม่มีการชดเชยหรือมาตรการเยียวยาใด ๆ เพิ่มเติมแล้ว ก็คาดว่าในไม่ช้าจะกระทบต่อการเลิกจ้างพนักงาน การทยอยปิดกิจการจากระดับร้านค้าไปถึงผู้นำเข้าและผู้ผลิตฯ ขยายวงกว้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจนยากจะกลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง

ด้านนายอาชิระวัสส์  วรรณศรีสวัสดิ์ ตัวแทนจากชมรมผู้นำเข้าและจำหน่ายคราฟท์เบียร์ กล่าวถึงการขอให้รัฐพิจารณาผ่อนปรนมาตรการห้ามจำหน่ายสุรา เพื่อต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการรายย่อยที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารแนวผับ บาร์ สถานบันเทิง และภาคธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า จากคู่มือเตรียมความพร้อมการเปิดธุรกิจของราชการที่ออกมา ทางเราอยากขอให้พิจารณา

ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยอาศัยเกณฑ์ดังกล่าวด้วย อาจจะมีผู้ประกอบการบางประเภทที่อยู่ในกลุ่มสีแดงก็ยินยอมหยุดดำเนินการ แต่บางผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองหรือกลุ่มสีเขียว อยากให้ทางราชการประเมินผู้ประกอบการกลุ่มนี้ตามหลักการในแบบเดียวกันกับธุรกิจอื่น โดยอาศัยอำนาจของผู้ว่าราชการในแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประเมินเพื่อบรรเทาความเสียหายของธุรกิจ และยินดีที่จะปฏิบัติตามคู่มือรักษาความปลอดภัยป้องกันการแพร่เชื้อ

นอกจากนี้ ได้เปิดเผยตัวเลขการจัดเก็บภาษีเบียร์และสุรา ในปี 2562 ที่สรรพสามิตจัดเก็บภาษีเบียร์ได้ถึง 70,090 ล้านบาท ขณะที่สุราจัดเก็บได้ถึง 62,146 ล้านบาท รวมเป็นรายได้จากภาษีเบียร์และสุราทั้งสิ้น 132,236 ล้านบาท นำไปสู่การผันงบเพื่อพัฒนาประเทศ อาทิ นำส่ง กทม.และหน่วยงานเทศบาล จำนวน 10% หรือ 14,100 ล้านบาท

นายอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ ตัวแทนชมรมผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายคราฟท์เบียร์ (เสื้อสีดำ) และ นายนิติพันธุ์ ครุธทิน ตัวแทนชมรมผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์ (เสื้อสีขาว)

 

เพื่อเอาไปเป็นงบประมาณ, นำส่ง สสส. , สมาคมกีฬา และ คนชรา จำนวนที่ละ 2% หรือ 2,800 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ทำโครงการฯ ในหน่วยงานและสมาคมฯ, นำส่งสถานีไทยพีบีเอส จำนวน 1.5% หรือ 2,100 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายสถานี และนำส่งในรูปแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 7% หรือไม่ต่ำกว่า 11,500 ล้านบาท

เพื่อนำไปเป็นงบประมาณรัฐ ทั้งหมดนี้รวมแล้วไม่ต่ำกว่าปีละ 177,000 ล้านบาทที่สร้างเงินหมุนเวียนในประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงาน การลงทุนของผู้ประกอบการรายย่อย การหมุนเวียนของ Supply Chain ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงการท่องเที่ยว

รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบันมีร้านคราฟท์เบียร์กว่า 1,000 ร้าน ที่แม้เป็นร้านขนาดเล็ก ก็มี fix cost กว่าแสนบาทขึ้นไป โดยยังไม่รวมสต๊อกคงค้างและเงินหมุนเวียน สำหรับผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 30 เจ้า นอกจาก fix cost ยังต้องรับผิดชอบค่าจัดเก็บรักษาเบียร์ในอุณหภูมิพิเศษ รวมกันหลายล้านบาทต่อเดือน

อีกยังมีค่าใช้จ่ายรายวันในคลังสินค้าทัณฑ์บนซึ่งเป็นที่พักของก่อนเสียภาษี เนื่องจากมีการสั่งห้ามขนย้าย นอกจากนี้ สินค้าเหล่านี้มีอายุเพียง 6 เดือน-1 ปี ช่วงเวลาห้ามขายนี้เป็นการตัดโอกาสการระบายสินค้า ทำให้สินค้าเสียหายจำนวนมาก โดยยังไม่เห็นการเยียวยา เพราะไม่เข้าข่ายธุรกิจหรือร้านค้าที่ถูกสั่งปิด ซึ่งในเดือนหน้าถ้ายังถูกสั่งห้ามขาย อาจจะต้องมีการ Lay off และมีสินค้าเสื่อมสภาพรอทำลายเพิ่มเติม มูลค่าความเสียหายยังประเมินค่ามิได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image