นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยระหว่างพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด หรือศรแดง ว่า กรมส่งเสริมการเกษตรให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือดูแลและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร เพื่อสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ซึ่งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางกรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้จัดทำโครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัยโควิด-19 ร่วมกับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวในเบื้องต้น จำนวน 10,000 ชุด ใน 1 ชุด ประกอบด้วย เมล็ดพันธุ์ผักบุ้ง โหระพา แตงกวา พริกขี้หนู และมะเขือพวง
นายเข้มแข็ง กล่าวว่า การที่บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตเมล็ดพันธุ์พืช และกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานดูแลเกษตรกร ได้ตกลงผนึกกำลังเป็นพันธมิตร เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดจนเป็นการบูรณาการความร่วมมือทางด้านความรู้และวิชาการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการอื่นๆ สร้างความร่วมมือในการพัฒนากำลังคนภาคการเกษตรภายให้เกิดความเข้มแข็ง และมั่นคงในอาชีพนี้ต่อไป
สำหรับ ขั้นตอนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เกษตรกรและผู้สนใจสามารถสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป โดยมีการจำกัดสิทธิ์การลงทะเบียนได้ครัวเรือนละ 1สิทธิ์ ต่อเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว 1 ชุด ผ่านเว็บไซต์ของกรมส่งเสริมเกษตรกร www.doae.go.th หรือแอดไลน์ออฟฟิเชียล “ตู้เย็นข้างบ้าน” เพื่อสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ตามขั้นตอนที่กำหนด เมื่อมีผู้เข้าร่วมโครงการครบจำนวน 10,000 ครัวเรือนแล้ว ทางระบบจะส่งข้อความแจ้งเตือนให้ดำเนินการปลูกผัก พร้อมส่งช่องทางศึกษาองค์ความรู้และองค์ความรู้เรื่องการปลูก การดูแลรักษา และการผลิตและขยายพันธุ์ผัก ทั้งนี้ เมื่อครบ 60 วันหลังจากแจ้งเตือนให้ดำเนินการปลูก จะมีการแจ้งเตือนให้รายงานผลการปลูกโดยให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ส่งรูปผลการปลูกพืชผักสวนครัวท่านละ 1 รูปพร้อมแสดงความคิดเห็นต่อโครงการฯ เพื่อนำมาปรับปรุงในการดำเนินงานในครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ สามารถศึกษาเรียนรู้องค์ความรู้และข้อมูลทางด้านการเกษตร อาทิ เรื่องการดำรงชีพตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การปลูก การดูแลรักษา การผลิตและขยายพันธุ์พืชผักตามชนิดพืชในโครงการฯ ผ่านทางเว็บไซต์หรือช่องทางการสื่อสารของ กรมส่งเสริมการเกษตร นอกจากนี้ยังถือเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะวิชาการด้านการเกษตร ถ่ายทอดให้แก่กำลังคนภาคการเกษตร เกษตรกรรุ่นใหม่ องค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน โดยสนับสนุนทรัพยากร บุคลากร และงบประมาณในลักษณะบูรณา เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
