‘สทนช.’ เผยวางท่อแก้แล้งอีอีซีสำเร็จพร้อมส่งน้ำให้นิคมฯเวลโกรว์ 20 พ.ค.นี้

default

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)​ เปิดเผยว่า ปัญหาภัยแล้งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาให้กับทุกภาคส่วน ทั้งด้านการอุปโภคบริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม ที่ผ่านมา กอนช. ได้ประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า รวมทั้งได้มีมาตรการแก้ไขปัญหาความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ในลักษณะการเชื่อมโยงโครงข่ายน้ำทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสวอร์​เตอร์ กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และภาคประชาชน ทำให้มีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ อาทิ การก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราว คลองสะพานเติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร​ เพื่อเสริมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำประแสร์ อัตราการสูบ 170,000 ลูกบาศก์เมตร​ (ลบ.ม.)​ ต่อวัน ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จและได้มีการทดสอบระบบสูบน้ำไปแล้วเมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นต้น

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ที่ประสบปัญหาปริมาณน้ำมีไม่เพียงพอความต้องการใช้น้ำซึ่งมีถึงประมาณวันละ 18,000-20,000 ลบ.ม.ต่อวัน และปริมาณในแหล่งน้ำสำรองของนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์มีปริมาณต่ำว่าเกณฑ์มาก ประกอบกับไม่มีน้ำมาเติมในอ่างเก็บน้ำ จึงได้วางแผนวางท่อส่งน้ำจากสระเอกชนเพื่อเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการวางระบบท่อเพื่อแก้ไขปัญหาแบบถาวร ปัจจุบันได้ดำเนินการวางท่อแล้วเสร็จ ระยะที่ 2-3 และพร้อมจะจ่ายน้ำเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมได้ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

สำหรับ การวางระบบท่อเพื่อการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อีอีซีเป็นการเร่งด่วน ระยะทางรวม 36.2 กิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 จากโรงกรองน้ำพานทอง 1 ผ่านสถานีพานทอง 2 ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ระยะที่ 2 จากสถานีพานทอง 2 เข้าสู่สถานีเพิ่มแรงดันน้ำเพื่ออุตสาหกรรม ระยะทาง 9.8 กิโลเมตร และระยะที่ 3 จากสถานีเพิ่มแรงดันน้ำเพื่ออุตสาหกรรม ส่งต่อไปยังนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ระยะทาง 15.9 กิโลเมตร ทั้งนี้ การวางระบบท่อทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในเดือน 30 มิถุนายน 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับพื้นที่อีอีซีและพื้นที่ใกล้เคียงได้อย่างเป็นระบบต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image