เข้าคิวลงทะเบียนทบทวนสิทธิ ยังแน่น ปชช.เผยไร้รายได้ ต้องกินขนมปังลดราคาประทังชีวิต

เข้าคิวลงทะเบียนทบทวนสิทธิ ยังแน่น ปชช.เผยไร้รายได้ ต้องกินขนมปังลดราคาประทังชีวิต

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่กรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางมาเพื่อขอทบทวนสิทธิ์เยียวยา 5,000 บาท จากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้จัดจุดตรวจวัดอุณหภูมิและบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้ผู้ที่จะเข้าพื้นที่ พร้อมจัดเก้าอี้สำหรับนั่งรอคิว และขอความร่วมมือให้ยืนห่างกันระยะเกิน 1 เมตร รวมถึง ขอให้ผู้มายื่นเรื่องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มจำนวนโต๊ะรับเรื่องจากเดิมที่มีอยู่จำนวน 10 โต๊ะ เป็น 20 โต๊ะ มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง 40 คน ทำให้บริการประชาชนได้ค่อนข้างรวดเร็วกว่าเดิม ส่วนจำนวนผู้มายื่นเรื่องคาดว่ามีประมาณ 1,500 คน
ต่อมา นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาดูความเรียบร้อยบริเวณจุดรับเรื่องร้องเรียน และพูดคุยกับประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาการขอทบทวนสิทธิ์รับเงินเยียวยา โดยนายธนกร เปิดเผยว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้สั่งการให้ตนคอยดูแลพี่น้องประชาชน จะเห็นได้ว่าวันนี้ มีประชาชนมาค่อนข้างน้อย นั่นหมายความว่ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท ได้ถึงมือประชาชนแล้ว ทั้งนี้ เรามีตัวเลขผู้ที่ผ่านเกณฑ์ไปแล้ว 13.4 ล้านคน จ่ายเงินไปแล้ว 11 ล้านคน โดยภายในสัปดาห์หน้าจะจ่ายเงินให้ครบทั้ง 13.4 ล้านคน

นายธนกร เปิดเผยต่อไปว่า จากการตรวจสอบข้อมูลและลงพื้นที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาเกิดจากการลงทะเบียนไม่สำเร็จ ณ ขณะนี้ ไม่สามารถลงทะเบียนได้แล้ว ทางกระทรวงการคลังได้รับข้อมูลไว้ เพื่อนำไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลือคนเหล่านี้อย่างไร ทั้งนี้ ฝากไปถึง ส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการที่เปิดรับเรื่องร้องเรียนที่กรุงเทพฯ และคนในต่างจังหวัด จะทำอย่างไรนั้น ตนได้ชี้แจงไปแล้วว่า คนที่อยู่ในต่างจังหวัดก็สามารถไปยื่นเรื่องร้องเรียนขอทบทวนสิทธิที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด

Advertisement

นายธนกร กล่าวถึงประเด็นการขยายเวลาการยื่นเรื่องขอทบทวนสิทธินั้น ว่า สำหรับผู้ที่ใดที่จะมายื่นเรื่องขอททวนสิทธิที่กรมประชาสัมพันธ์ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในการรับเรื่อง หลังจากนี้ หากใครต้องการยื่นขอทบทวนสิทธิต้องไปดำเนินการเองในเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com โดยจะเปิดให้ทบทวนสิทธิไปจนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 10 พ.ค. ส่วนวันที่ 12-15 พ.ค. ที่บอกว่าให้ยื่นเรื่องร้องเรียนนั้น เป็นการยื่นเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ทั่วไป เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการช่วยเหลือพี่ประชาชนในอนาคต

ขณะที่นายธนกร เดินดูความเรียบร้อย ได้มีนายป่าสัก ทาระวรรณ อายุ 54 ปี อดีตคนขับแท็กซี่ เข้ามาสอบถามนายธนกรว่า ในส่วนของอาชีพคนขับรถแท็กซี่ จำเป็นต้องมีผู้พิทักษ์สิทธิลงไปตรวจสอบทุกคนหรือไม่ เนื่องจากหลายคนกังวลว่าทำไมถึงยังไม่ได้เงิน หรือว่าต้องรอผู้พิทักษ์สิทธิมาตรวจสอบก่อน โดยนายธนกรตอบว่า อาชีพขับรถแท็กซี่ คนขับที่มีใบขับขี่สาธารณะและมีเอกสารครบถ้วนสามารถตรวจสอบได้ จึงไม่จำเป็นที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์จะต้องไปตรวจสอบทุกคน ส่วนที่ยังไม่ได้รับเงินก็อาจต้องรอเรื่องกระบวนการตรวจสอบก่อน

Advertisement

นายป่าสัก ถามต่อว่า ถ้าตอนที่ตนเองลงทะเบียน ไม่อยู่ในมาตรา 33 แต่ต่อมาตนได้งานทำและเข้าสู่ประกันสังคมตามมาตรา 33 นั้น ตนจะได้รับการพิจารณาได้รับเงินเยียวยาหรือไม่ และจะถูกเอาผิดในข้อหาให้ข้อมูลเท็จหรือไม่ ซึ่งนายธนกรตอบว่า ตามหลักการแล้วต้องดูที่เจตนา หากไม่มีเจตนาที่จะให้ข้อมูลเท็จก็ไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะในช่วงเวลานั้นประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน และรัฐบาลไม่มีเจตนาจะไปเอาผิดใคร เพียงต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ขณะที่นายสมนึก ลิมป์โพธิรัตน์ อายุ 63 ปี กล่าวว่า เดินทางมาร้องเรียนขอยื่นทบทวนสิทธิรับเงินเยียวยา 5,000 บาท เนื่องจากระบบแจ้งว่า ตนเองเป็นเกษตรกร แต่ตนเองประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยลูกเป็นผู้ลงทะเบียนให้ ตนนำถุงขนมปังลดราคามาโชว์ต่อหน้าสื่อมวลชน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตอนนี้ตนเองไม่มีรายได้จึงต้องซื้อขนมปังลดราคามาประทังชีวิต ส่วนเรื่องการยื่นทบทวนสิทธิเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image