ชี้กู้ 1.9 ล้านล้านอัดฉีดเชื่อมั่น จี้รัฐฟื้น ศก. ดันช้อปช่วยชาติ-เที่ยวไทยอีกรอบ

ชี้กู้ 1.9 ล้านล.อัดฉีดเชื่อมั่น จี้รัฐฟื้น ศก. ดันช้อปช่วยชาติ-เที่ยวไทยอีกรอบ

รัฐยิ้ม ดัชนีหุ้น เม.ย.ดีขึ้น ดัชนีเชื่อมั่นเพิ่ม เหตุนักลงทุนปลื้ม พ.ร.ก.กู้ 1.9 ล้านล. สภาธุรกิจตลาดทุนเล็งชงรบ.ดันช้อปช่วยชาติ-ไทยเที่ยวไทย กระตุ้นจับจ่ายใช้สอย

ฟื้นเศรษฐกิจ – เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม จากสภาพเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนพฤษภาคม ล่าสุด นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 42% อยู่ที่ระดับ 80.40 จากระดับ 56.70 จากเดือนเมษายน 2563 ระดับนี้ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวและดีขึ้นหลังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาติดต่อ 3 เดือน โดยผลสำรวจ พบว่า นักลงทุนคาดหวังนโยบายภาครัฐ เป็นปัจจัยสนับสนุนมากที่สุด รองลงมา คือ การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว รวมถึงการค้นพบวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือ การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และการไหลเข้าและออกของเงินทุน รวมถึงความกังวลหากโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดรอบ 2

นายไพบูลย์กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว แต่กลุ่มนักลงทุนต่างประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซา โดยดัชนีหุ้นเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม เพราะได้แรงสนับสนุนจากปัจจัยในประเทศที่ภาครัฐออกมาตรการเยียวยา อาทิ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท มาตรการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงิน 9 แสนล้านบาท ช่วยเอสเอ็มอี และออกโครงการกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (บีเอสเอฟ) ประคองตลาดตราสารหนี้ ทำให้ช่วงครึ่งเดือนแรกดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,100-1250 จุด และมีทิศทางเพิ่มขึ้นหลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยลดลงต่อเนื่อง ความชัดเจนมาตรการรัฐและเอกชนชัดเจนขึ้น ทำให้ดัชนีหุ้นไทยปิด 1,301 จุดปลายเดือนเมษายน โดยตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ดัชนียังมีโอกาสเคลื่อนไหวแกว่งตัว แต่แนวโน้มที่ดัชนีจะปรับระดับลงอย่างรุนแรงมีอย่างจำกัด

“ขณะที่เฟทโก้เตรียมหารือร่วมกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อทำสรุปเป็นมาตรการเสนอต่อรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ โดยจะเสนอให้มีการกระตุ้นให้คนที่มีกำลังซื้อที่ไม่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ออกมาจับจ่ายใช้สอย และท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ซึ่งภาครัฐจะต้องสร้างแรงจูงใจในการใช้จ่ายเหล่านั้น ในรูปแบบเหมือนที่เคยทำมาในอดีต อาทิ มาตรการช้อปช่วยชาติ โดยอาจฟื้นช้อปช่วยชาติ กระตุ้นไทยเที่ยวไทยออกมาเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาต้องมีขนาดใหญ่ไม่ต่างจากมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป” นายไพบูลย์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image