แห่ลดดอก!! ‘กรุงศรี-ไทยพาณิชย์’ แห่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ มีผล 22 พ.ค.

แห่ลดดอก!! ‘กรุงศรี-ไทยพาณิชย์’ แห่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ มีผล 22 พ.ค.

แห่ลดดอกเบี้ย – เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงศรีพร้อมสนับสนุนนโยบายทางการเงินของภาครัฐผ่านกลไกการทำงานของธนาคาร เพื่อลดผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจ และภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้า อันเนื่องมาจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 และปัจจัยลบที่ตามมา ดังนั้น กรุงศรีจึงปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR, MOR และ MRR ลงอีก หลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อไปแล้ว 3 ครั้ง ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ วันที่ 24 มีนาคม และวันที่ 10 เมษายน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

นายเซอิจิโระกล่าวอีกว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อของกรุงศรีมีอัตราดอกเบี้ยดังต่อไปนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate หรือ MLR) ปรับลดลงจาก 5.83% เป็น 5.58% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate หรือ MOR) ปรับลดลงจาก 6.30% เป็น 5.95% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate หรือ MRR) ปรับลดลงจาก 6.30% เป็น 6.05% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยใหม่ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมเป็นต้นไป

ด้าน นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า จากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มทยอยเข้าสู่ช่วงสภาวะปกติ เพื่อเร่งการฟื้นตัวของฐานะการเงินในภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนให้กลับมาโดยเร็ว ธนาคารจึงได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้าธนาคารโดยเร่งด่วน นับเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนสนับสนุนด้านสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในหลายเดือนที่ผ่านมา

นายอาทิตย์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทแบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) หรือ MLR ปรับลดจาก 5.375% เป็น 5.25% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในระบบธนาคาร อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) หรือ MOR ปรับลดลงจาก 6.095% เป็น 5.845% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) หรือ MRR ปรับลดลงจาก 6.345% เป็น 5.995% ซึ่งปรับลดลงมากที่สุดในระบบธนาคาร ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและลูกค้าสินเชื่อรายย่อยมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และช่วยให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ในที่สุด

Advertisement

“ทั้งนี้ นอกจากมาตรการลดดอกเบี้ยแล้ว ธนาคารยังสนับสนุนแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ และการให้สภาพคล่องเพิ่มเติมผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม” นายอาทิตย์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image