เฉลียงไอเดีย : รจนา บุนฑารักษ์ แตกหน่อ‘บิวทรีนา ไลน์’ต่อยอดธุรกิจครอบครัว

เฉลียงไอเดีย : รจนา บุนฑารักษ์ แตกหน่อ‘บิวทรีนา ไลน์’ต่อยอดธุรกิจครอบครัว

‘รจนา บุนฑารักษ์’
จับเซนส์ผู้หญิง..อย่าหยุดสวย
แตกหน่อ‘บิวทรีนา ไลน์’ต่อยอดธุรกิจครอบครัว

คุณรจนา บุนฑารักษ์ หรือ คุณบ๊วย กรรมการผู้บริหาร บริษัท บิวทรีนา ไลน์ จำกัด ผู้ปั้นแบรนด์ “บาระ” ผลิตภัณฑ์ภายใต้ บริษัท บิวทรีนา ไลน์ ซึ่งคุณบ๊วยก่อตั้งขึ้น ต่อยอดจากธุรกิจของครอบครัว “ที่ตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจจัดจำหน่ายสกินแคร์ ความตั้งใจแรกคือการขยายธุรกิจของครอบครัวในอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น จากอุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางไปสู่การสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ซึ่งทุกครั้งการแตกไลน์ธุรกิจจะเริ่มจากการนำความสามารถด้านใดด้านหนึ่งไปต่อยอด แต่แน่นอนว่าถึงจะมีความสามารถแต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังต้องอาศัยปัจจัยความรู้และความพากเพียรอุตสาหะให้เกิดความสำเร็จ และสิ่งสำคัญการดำเนินธุรกิจของครอบครัวเรา คือการยึดถือค่านิยมกับคำว่าไว้วางใจ (Trusty) ไม่ว่าจะกับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร หรือแม้แต่คู่แข่ง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกบริษัทเติบโตก้าวหน้ามาถึงวันนี้”

คุณบ๊วยกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการทำแบรนด์บาระ และขยายความต่อว่า เริ่มต้นโฟกัสสาวๆ ช่วงอายุ 30-40 ปี เป็นกลุ่มแรก เพราะบาระเน้นเรื่องของการบำรุงผิว อีกทั้งกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สุดในประเทศตอนนี้และมีกำลังจับจ่าย มีความรู้ในการหาข้อมูลในสื่อโซเชียล ชอบลองใช้ของใหม่ๆ ที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม บาระมีแผนจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายครบช่วงอายุตั้งแต่ 20-50 ปี โดยจะทยอยออกผลิตภัณฑ์ประเภทบำรุงผิวหน้าให้ครบไลน์ โดย บาระ มี keyword สำคัญคือ “บำรุง ฟื้นฟู ปกป้อง” การทำตลาดจึงมี concept คือการสร้างประสบการณ์การดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ด้วยขั้นตอนที่ถูกต้องครบถ้วน

ซึ่งเป็นที่มาของแบรนด์บาระ คุณบ๊วยบอกว่า BARA ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “กุหลาบ” ดอกไม้สวย กลิ่นหอม มีหนามแหลมเพื่อปกป้อง จึงให้คำนิยามบาระ “Be yourself be BARA” เปรียบเสมือนหญิงสง่างาม พร้อมเผชิญโลกกว้างด้วยความมั่นใจในแบบฉบับของตัวเอง ผู้หญิงที่รู้จักวิธีดูแลตัวเองและเห็นคุณค่าตัวเองอยู่เสมอ

Advertisement

การทำแบรนด์ของตัวเอง คุณบ๊วยไม่ได้เริ่มนับหนึ่งทำธุรกิจ เพราะนอกจากทำธุรกิจกับครอบครัวมานานกว่า 10 ปี ช่วงก่อนนั้นหลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการโฆษณาและการออกแบบกราฟิก, แฟชั่น และเทกซ์ไทล์ ได้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทำงานกับแบรนด์ดังระดับโลก ทั้ง Quiksilver& Roxy, Jim Thompson ผนวกกับการเรียนต่อระดับปริญญาโทที่ออสเตรเลียสาขาบริหารจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ (Master Degree of International Business Management, Deakin University, Australia) ยิ่งทำให้ช่วยเรื่องมุมมองด้านรสนิยมของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

“ถามว่าการทำธุรกิจของตัวเองกับเคยบริหารงานของบริษัทอื่น ต่างกันหรือไม่ สำหรับตัวเองไม่แตกต่าง เพราะจะคิดเสมอว่าถ้าเราเป็นเจ้าของ เราควรทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัท ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใด ล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญ แม้เข็มเพียงเล็กๆ หากไม่สามารถเดินให้เที่ยงตรงได้ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อระบบใหญ่ได้เช่นกัน”

คุณบ๊วยย้ำว่า การซื่อสัตย์ต่อตนเองนั้นมีความสำคัญเพราะนั่นหมายถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถยึดถือเป็นแนวทางด้วยทัศนคติที่ดีและสามารถสร้างคุณประโยชน์ร่วมกัน

Advertisement

แต่คุณบ๊วยยอมรับว่า มีความต่างอยู่บ้างจากที่ผ่านมาธุรกิจจะเป็น B2B (Business-to-Business : การขายระดับองค์กรโดยตรง) แต่ทำแบรนด์เอง ธุรกิจจะเป็น B2C (Business-to-Consumer : การขายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง) จึงต้องมามองเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ เพราะมุมมองผลิตภัณฑ์ไทยต่อผู้บริโภคที่ผ่านมามักคิดว่าคุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ต่างชาติไม่ได้ มีน้อยคนที่จะรู้ว่าแบรนด์ดังๆที่คนไทยไปซื้อมาจากต่างประเทศหลายแบรนด์ผลิตมาจากไทย “จึงตั้งใจทำแบรนด์บาระ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล การสร้างภาพลักษณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงมุ่งไปที่ด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์เพื่อการสร้าง awareness ให้กับผู้บริโภคเป็นสำคัญ”

คุณบ๊วยนอกจากเป็น working woman แล้ว ยังเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง วัย 5 ขวบ ที่กำลังน่ารัก แต่ดูเหมือนไม่ได้เป็นปัญหาของคุณแม่บ๊วย เธอบอกว่า สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการเวลา จึงกำหนดแบ่งช่วงเวลาทำงานและกิจกรรมที่ทำกับลูกอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์จะเป็นวันกิจกรรมครอบครัว “โชคดีที่สามีเป็นคุณพ่อที่ดี ช่วยกันดูแลลูก เพราะถือว่าการที่ลูกจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ ความอบอุ่นในวัยเด็กเป็นรากฐานที่สำคัญ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันชีวิต”

จัดการงานธุรกิจและเรื่องที่บ้านได้ลงตัว เป้าหมายอนาคต “บาระ” ที่คุณบ๊วยตั้งใจให้เกิด โดยเป้าหมายใหญ่คือยกระดับแบรนด์ไทยสู่การค้าระหว่างประเทศ ที่มีส่วนช่วยสร้างความเจริญมั่งคงควบคู่กับธรรมาภิบาล และการมีส่วนช่วยยกระดับสังคมไทยให้ดีขึ้น คงได้เห็นในอนาคต..แน่นอน

เกษมณี นันทรัตนพงศ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image