“เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น จากแรงหนุนของกระแสเงินทุนไหลเข้า”
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยเงินบาทขยับอ่อนค่าเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจและเครื่องชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด ทำให้ตลาดเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทสามารถลดช่วงติดลบลงได้เล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ตามเงินเยนที่ดีดตัวกลับมาแข็งค่า หลังผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นปฏิเสธความเป็นไปได้ต่อแนวคิดเรื่อง helicopter money เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทช่วงท้ายสัปดาห์ ยังสอดคล้องกับสถานะซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
สำหรับในวันศุกร์ (22 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 34.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (15 ก.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.80-35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของไทย ตลอดจนสัญญาณดอกเบี้ยจากผลการประชุม FOMC ของเฟด วันที่ 26-27 ก.ค. (แม้ว่าเฟดอาจจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบนี้) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนมิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคบริการ (ขั้นต้น) เดือนก.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 2/2559 นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (27-28 ก.ค.) ด้วยเช่นกัน
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้น จากแรงหนุนของกระแสเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องโดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,509.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.15% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 11.93% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 58,399.73 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 561.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.14% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับพุ่งขึ้นในวันพุธ หลังกลับมาเปิดตลาดจากวันหยุดยาว โดยสามารถยืนเหนือระดับ 1,500 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร รวมทั้งแรงซื้อของต่างชาติ ก่อนที่จะปรับลดลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังผลประกอบการไตรมาส 2 ออกมาน่าผิดหวัง อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นได้อีกครั้งในวันศุกร์ ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (25-29 ก.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,495 และ1,475 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,525 และ 1,540 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของไทย และการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ คำส่งซื้อสินค้าคงทน และจีดีพีไตรมาส 2/59 (Adv. Estimate) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค และเครื่องชี้ภาคการผลิตของญี่ปุ่น
