อินฟราฟัน : เคาะจ่ายตังค์รถไฟไทย-จีน

อินฟราฟัน : เคาะจ่ายตังค์รถไฟไทย-จีน

อินฟราฟัน : เคาะจ่ายตังค์รถไฟไทย-จีน

รถไฟไทย-จีน หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้ประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 28 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระหว่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย และ นายนิ่ง จี๋เจ๋อ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน หัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีน

โครงการนี้ แบ่งดำเนินงานออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 253 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.794 แสนล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างระหว่างปี 2561-2566 ช่วงที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.11 แสนล้านบาท ใช้ระยะเวลาก่อสร้างระหว่างปี 2563-2568 รวมระยะทางทั้ง 2 ระยะ 608 กิโลเมตร

Advertisement

เส้นทางนี้ เป็นการเชื่อมระบบขนส่งทางราง ระหว่างกรุงเทพฯ-โคราช-หนองคาย เชื่อมต่อไปลาว ถึงจีนตอนใต้ ช่วยให้การขนส่งผู้โดยสาร สินค้า ดำเนินการได้สะดวก และเป็นบริการถูกสุด เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

การประชุมครั้งนี้ ได้พิจารณาสัญญา 2.3 ซึ่งเป็นสัญญาการวางราง ระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ ขบวนรถ และการฝึกอบรม กรอบวงเงิน 50,633 ล้านบาท ที่ไทยจะต้องซื้อจากจีน เบื้องต้นจีนเสนอให้จ่ายเป็นวงเงินสกุลดอลลาร์ทั้งหมด เพื่อความมั่นคงของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ไทยพิจารณาว่าจะส่งให้มูลค่าโครงการสูงขึ้น จึงเจรจาขอชำระเป็นดอลลาร์ และบาท

ได้ข้อตกลงร่วมกันในการชำระเงิน แบ่งเป็นการจ่ายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 80% หรือคิดเป็นวงเงินประมาณ 40,506 ล้านบาท หรือ 1,313 ล้านดอลลาร์ และอีก 20% ชำระเป็นเงินบาท วงเงิน 10,126 ล้านบาท

Advertisement

สำหรับเรื่องของร่างสัญญาที่หารือกันในครั้งนี้ จะใช้อัตราแลกเปลี่ยนในระหว่างวันที่ 25 เมษายน-30 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 30.82955 บาท/ดอลลาร์ โดยไม่ได้ชำระงวดเดียวทั้งหมด จะทยอยดำเนินการตั้งแต่ปี 2563-2568 ใช้เวลา 5 ปี

สำหรับวงเงินเดิมที่กำหนดไว้ของสัญญา 2.3 ในเรื่องระบบราง ไฟฟ้าเครื่องกล ขบวนรถ และการฝึกอบรม อยู่ที่ 53,633 ล้านบาท แต่เมื่อมีการพูดคุยกันทางรัฐบาลจีนก็ได้ปรับลดให้ประมาณ 3 พันล้านบาท

ขั้นตอนต่อไปหลังได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว จะเป็นเรื่องการลงนามในสัญญา โดยจะมีการนำผลการประชุมครั้งนี้รายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน จากนั้น นำร่างสัญญาตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เบื้องต้นกำหนดไว้ไม่เกินเดือนตุลาคม 2563 นี้

จะเดินหน้าได้ตามแผนงานที่กำหนดไว้จริงหรือไม่ ยังต้องตามลุ้นอย่างใกล้ชิด!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image