‘อีเอ’ จับมือ ‘กลุ่มช่วยกัน’ มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ “กลุ่มช่วยกัน” ห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนส่งมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคในระบบปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศและฆ่าเชื้อโรค พร้อมหน้ากากความดันลบ ให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินหน้าโครงการส่งอุปกรณ์กำจัดเชื้อโรคให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เร่งรณรงค์ให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ป้องกันความเสี่ยง และลดโอกาสการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ และลม น้ำมันไบโอดีเซล และได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มผู้ก่อตั้ง “กลุ่มช่วยกัน” กล่าวว่า ในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ได้มีการมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคในระบบปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศและฆ่าเชื้อโรคและหน้ากากความดันลบ ให้แก่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพื่อใช้ในการดูแลความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนผู้มาติดต่อขอรับบริการ โดยมีรองศาสตราจารย์นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นผู้รับมอบ
นายวุฒิเลิศกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จัดทำโครงการไว้เพื่อรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัส 2019 (โควิด-19) ด้วยการริเริ่มจัดตั้ง“กลุ่มช่วยกัน” ขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับสมาชิกและพันธมิตรจำนวนมากที่มีเป้าหมายร่วมกันภายใต้เจตน์จำนงว่า สมาชิกและพันธมิตรของกลุ่มช่วยกันจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศในรูปของกลุ่มอิสระ โดยไม่หวังผลประโยชน์ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และไม่อิงการเมือง โดยโครงการของกลุ่มอีเอ และกลุ่มช่วยกันที่ผ่านมา ได้แก่ การส่งมอบอุปกรณ์กำจัดเชื้อโรคไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และการร่วมกันรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพหมอชนะ โดยหมอชนะ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการเปิดเมือง ทำให้ผู้ใช้ได้ทราบความเสี่ยงของตนเองจากกิจกรรมและบุคคลที่ตนเองได้ใกล้ชิดในช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเด่นจากการนำบลูทูธ มาทำงานร่วมกับจีพีเอส ทำให้สามารถติดตามได้ว่าผู้ใช้ได้เคยใกล้ชิดผู้ป่วยหรือได้เดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงและใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในระยะรัศมี 5 เมตร จึงทำให้สามารถคัดแยกผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อในวงที่แคบลงได้ รวมทั้งควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กำลังจะเปิดเมืองและการคืนการใช้ชีวิตของคนในสังคม
“แอพพลิเคชั่นหมอชนะ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการลดโอกาสการเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ โดยประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอพหมอชนะ ไว้บนโทรศัพท์มือถือและแสดงคิวอาร์โค้ดในโทรศัพท์มือถือที่ใช้พกพาประจำตัวเปรียบเสมือนหนังสือผ่านทางหรือโควิดวีซ่า ใช้แสดงหรือตรวจสอบก่อนเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ หรือใช้ร่วมกับไทยชนะได้ โดยยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มช่วยกัน หรือเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.chuaygun.com และเฟซบุ๊กกลุ่มช่วยกัน” นายวุฒิเลิศกล่าว
