เฉลียงไอเดีย : สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ฉายภาพธุรกิจยุค New Normal ถึงเวลาปรับ Mind Set

‘สมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์’
ฉายภาพธุรกิจยุค New Normal
ถึงเวลาปรับ Mind Set…คิดแบบกลับหัว

ตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาจากเมืองอู่ฮั่น หรือโควิด-19 เมื่อต้นปี ได้สร้างหายนะให้กับทั้งโลกอย่างที่คาดไม่ถึงมาก่อน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลให้หลายกิจการอาจต้องปิดตัวถาวร เกิดการว่างงานเป็นจำนวนมาก แม้กระทั่งปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แต่กิจการส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าจะลงทุนเพิ่มหรือเปิดรับพนักงาน

แต่กลับมีธุรกิจหนึ่งเรียกได้ว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เลย จะเชื่อหรือไม่ ตั้งแต่การเริ่มระบาดของเชื้อโรค จน ณ ปัจจุบัน บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ iiG ยังคงประกาศรับสมัครงานอย่างต่อเนื่อง!

คุณสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ รองประธานกรรมการบริษัท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร iiG บอกว่า เพราะ Asset หรือสินทรัพย์ของบริษัท คือพนักงาน บริษัทไม่ได้มีต้นทุนด้านโรงงาน เครื่องจักรเหมือนธุรกิจอื่นๆ เพราะธุรกิจของบริษัทคือรับเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจต่างๆ “เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังคงมีลูกค้าใหม่ๆ ติดต่อเข้ามาขอใช้บริการ หลักๆ คือกลุ่มธุรกิจประกัน ธุรกิจลีสซิ่ง”

Advertisement

คุณสมชายฉายภาพธุรกิจของ iiG เพิ่มเติมว่า ธุรกิจแรกตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท เป็นธุรกิจ ERP (ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร) ซึ่งมีบริษัทย่อยคือ บริษัท ไอซีอีคอนซัลติ้ง จำกัด ให้คำปรึกษาระบบงานคอมพิวเตอร์ หรือเรียกง่ายๆ ว่า วางระบบหลังบ้าน ทั้งระบบบัญชี ระบบการจัดซื้อจัดจ้าง Invention จนกระทั่งระบบวางแผงควบคุมการผลิต และบริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ของ Oracle

จากระบบหลังบ้านก็ขยับมาทำระบบหน้าบ้าน ให้บริการคำปรึกษาออกแบบและวางระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ CRM Solution เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับลูกค้าทั้งหมดมาอยู่ในที่เดียวกัน เรียกว่า Single View เพื่อให้รู้จัก-รู้ใจลูกค้าของตัวเองว่าต้องการอะไร พฤติกรรมเป็นยังไง และบริษัทยังมีบริการเช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จาก Salesforce ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บริการอันดับหนึ่งของโลก

Advertisement

และล่าสุดเปิดธุรกิจใหม่ Customer Experience Management ผ่านบริษัทลูกคือ บริษัท ไอแอนด์ไอ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด รับปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์ ด้านแบรนด์และด้านการสร้างประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงการสื่อสารการตลาดดิจิทัล หรือ Digital Marketing เป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่ทำอยู่ เพื่อให้บริการครบวงจร end to end

คุณสมชายบอกอีกว่า ยังมีอีกหนึ่งบริการ คือจัดหาบุคลากรด้านไอทีตามสเปกที่บริษัทลูกค้าต้องการ เรียกว่า Placement Service โดยมีสัญญาให้เลือกรับบริการตามต้องการตั้งแต่ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี เป็นต้น

“ธุรกิจเราต้องพึ่งพาบุคลากรจำนวนมาก ซึ่งบุคลากรด้านไอทีเก่งๆ ขาดแคลนมาก ตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจึงแก้ปัญหาโดยตั้งฮับที่เชียงใหม่ Recruit เด็กที่เชียงใหม่ ระดับหัวกะทิมาฝึกใช้เทคโนโยลีระดับโลก ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ตอนนี้มีแล้ว 70 คน ถึงสิ้นปีคาดว่าจะแตะ 100 คน”

เชียงใหม่โมเดล ได้ขยายไปยังภาคอื่นๆ ที่เริ่มแล้วคือฮับหาดใหญ่ และมีเป้าหมายขยายฮับทุกภาคทั่วประเทศ โดยคุณสมชายวางฮับต่างจังหวัดให้เป็น Development Center เป็นศูนย์พัฒนานักศึกษาเป็น Software Developer จึงมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียน เอ็ม เอ ไอ ซึ่งบริษัทเตรียมแผนมา 2 ปีแล้ว “หลังเกิดเรื่องโควิด-19 ทำให้ผมคิดว่าเราเข้าจดทะเบียนในตลาดช้าไปหน่อย ด้วยสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ค่อนข้างผันผวน แต่ผมก็มองอีกมุมว่า ถ้าของเราดี ก็ไม่ต้องกลัว ผมมั่นใจว่าธุรกิจของเรามี Growth (อัตราเติบโต) ในยุค New Normal ทุกองค์กรต้องใช้เทคโนโลยี Demand จะมหาศาล สำหรับผมมองข้ามช็อตไปหลังโควิดจบ ลูกค้าของเราจะเยอะมาก ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีแต่ Layoff พนักงาน แต่บริษัทผมจ้างงานทุกวันเพื่อรองรับอนาคต”

คุณสมชายบอกว่า ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจว่าธุรกิจกำลังจะโตมาก ยิ่งเกิดสถานการณ์โควิด ยิ่งกระตุ้น ถามว่า Capacity ของเราอยู่ตรงไหน ก็คือจำนวนพนักงานของเรา ดังนั้นแผนหลักๆ คือขยายกำลังคน จึงมีแผนระยะยาวคือตั้ง Academy สอนคน ซึ่งจะเริ่มแผนตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ ในการพัฒนาหลักสูตร หา Content บุคลากรประจำ Academy โดยเปิดกว้างสอนทุกคนที่สนใจเรียนด้านไอที เทคโนโลยี ไม่จำกัดอายุ

ย้อนถามถึง iiG ต้องปรับตัวรับโควิด ต้อง Work from Home หรือไม่ คุณสมชายบอกว่า การทำงานของเราคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีอยู่แล้ว เราเรียกตัวเองว่า Mobile Workforce อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเจอกัน บริษัททำงานแบบนี้ ใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน ทั้งการประชุมออนไลน์ ติดตามงานออนไลน์ ยิ่งในระยะหลังมานี้มีการพูดถึงการทำงานแบบ Agile คือวิธีทำงานแบบคล่องแคล่ว ว่องไว ดังนั้น ทีมต้องมีขนาดเล็ก Empower คือพนักงานสามารถคิดเอง ตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องรอการตัดสินใจตามระดับชั้น ซึ่ง iiG ได้ปรับเปลี่ยน Mind Set ให้ลูกค้าด้วย

“จากที่เคยทำงานเป็นแบบ Silo แบ่งเป็นแผนก มีขั้นตอนเยอะ ต้องส่งเรื่องให้ระดับหัวหน้างานตัดสินใจเป็นลำดับชั้น สำหรับเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ หากธุรกิจยังมีระบบแบบนี้ ไม่ทันการณ์แล้ว ต้องเปลี่ยนวิธีคิด สร้างทีมที่มีลักษณะปรับตัวได้ เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว เพราะความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงง่าย พฤติกรรมของคู่แข่งก็ปรับเปลี่ยน เราต้องปรับได้ทันที”

คุณสมชายบอกอีกว่า การทำงานรูปแบบใหม่นี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดในช่วงโควิด-19 แต่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า ที่มีการพูดถึง Digital Transfromation องค์กรที่ไปรอดต้องคิดใหม่ทำใหม่ ต้องคิดแบบกลับหัวตีลังกา คือต้องพลิกโฉมธุรกิจ องค์กรที่ยังติดของเก่า มี Paradigm (กระบวนทัศน์)เก่าๆ ธุรกิจจะไปไม่รอด “การทรานส์ฟอร์ม ควรใช้เวลาแค่ 12-18 เดือน ที่ผ่านมาธุรกิจไทยทรานส์ฟอร์มแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบปะผุ มากกว่า Digital Transfromation ซึ่งองค์กรที่โดน Technology Disruption ประสบความสำเร็จในการทรานส์ฟอร์มมีน้อยมาก เพราะติดขัดวัฒนธรรมขององค์กร Mind Set ของคนทำงานที่ทำแบบ Safe ตัวเอง และมีการเมืองในองค์กร พอเกิดโควิด เกิด New Normal กลายเป็นว่าวิกฤตครั้งนี้บังคับเลยว่าเทคโนโลยีคือทางรอด ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ธุรกิจต้องทำแบบ Do or Die”

คุณสมชายเปรียบเทียบให้ภาพ เปรียบโควิดกับกีฬาฟุตบอล โดยบอกว่าที่ผ่านมายังอยู่ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่พอโควิดมา กลายเป็นต้องเข้ารอบตัดเชือก ใครแพ้คัดออก ภายใต้ New Normal องค์กรที่ปรับตัวไม่ได้ ก็คือพวกแพ้คัดออก ไม่ใช่แค่แข่งขันไม่ได้ แต่จะหายไปเลย แม้กระทั่งต้องอพยพเปลี่ยนอุตสาหกรรม เปลี่ยน Sector กันเลย เพราะ Business Model ใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และโควิด ต้องเปลี่ยนวิธีคิด คนที่ว่องไวเท่านั้นจะเป็นผู้ชนะ ถ้าคิดช้าทำช้า คือ “แพ้”

คุณสมชายขยายความอีกว่า การที่เราทรานส์ฟอร์มแบบค่อยเป็นค่อยไป ได้ส่งผลถึงขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ดูได้จาก Raking ของประชาคมโลก นั่นเพราะการทรานส์ฟอร์มของเราเชื่องช้าเกินไป แม้กระทั่งสตาร์ตอัพไทย จนถึงตอนนี้ยังไม่มี Unicorn แม้แต่บริษัทเดียว ยิ่งเกิดสถานการณ์โควิด อุตสาหกรรมหลักที่ประเทศพึ่งพิงมีแค่ 2 อุตสาหกรรม คือการท่องเที่ยวและส่งออกโดนกระทบหนัก ถามว่าแล้วไทยจะเหลือความสามารถการแข่งขันของประเทศที่ไหน คำตอบคือ Sector ที่ไม่โดนกระทบรุนแรงที่ยังเหลืออยู่ ปรับตัวได้หรือไม่ จะสามารถสร้าง Global ได้หรือไม่

มาถึงบทสรุป คุณสมชายให้นิยามสั้นๆ แต่เห็นภาพ “การสร้างคนก็คือหัวใจของการสร้างความยั่งยืน เราต้องทำให้ลูกค้าแข่งขันดีขึ้นให้ได้ ธุรกิจเราจะประสบความสำเร็จ เมื่อลูกค้าเราเติบโตเท่านั้น”

นี่คือเป้าหมายของ iiG โตไปด้วยกันกับลูกค้า

เกษมณี นันทรัตนพงศ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image