‘สทนช.’​เผยครม.ไฟเขียว 8 มาตรการรับมือฝน-เก็บน้ำ-ป้องท่วม

‘สทนช.’​ เผยครม.ไฟเขียว 8 มาตรการรับมือฝน-เก็บน้ำ-ป้องท่วม

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)​ มีมติเห็นชอบ 8 มาตรการเตรียมความพร้อมรองรับฤดูฝน ปี 2563 และรับทราบผลการดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/2563 ตามที่สทนช.เสนอ เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฏิบัติการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับในฤดูฝน ปี 2563 ในการป้องกันและลดผลกระทบความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ได้แก่ 1.การคาดการณ์พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วม 2.การปรับแผนการเพาะปลูกพืชในพื้นที่ลุ่มต่ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ทุ่งบางระกำ และพื้นที่ลุ่มต่ำ 12 แห่ง เพื่อเก็บเกี่ยวก่อนฤดูน้ำหลากและใช้เป็นพื้นที่สำหรับหน่วงน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และบรรเทาระดับความรุนแรงน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

นายสมเกียรติ​ กล่าวต่อว่า 3.การจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ โดยใช้ข้อมูลฝนคาดการณ์ ประเมินน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพื่อนำมากำหนดการเก็บกักน้ำ และระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน 4.การตรวจสอบอาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ และสถานีโทรมาตรให้มีสภาพพร้อมงาน 5.การตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ อาทิ การปรับปรุงและพัฒนาแผนการระบายน้ำ เป็นต้น 6.การสำรวจแม่น้ำคูคลอง และดำเนินการขุดลอก กำจัดผักตบชวา 7.การเตรียมความพร้อม เครื่องจักร เครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และเข้าช่วยเหลือได้ทันสถานการณ์ รวมทั้งสิ้น 7,661 เครื่อง และ 8.การสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้รับรู้และเข้าใจผ่านเครือข่ายคณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการติดตามประเมินสถานการณ์น้ำช่วงต้นฤดูฝนเพื่อวางแผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกในฤดูฝนปี 2563 พบว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การรวม 10,307 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)​ ซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าปี 2562 จำนวน 6,360 ล้านลบ.ม.ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการประเมินความต้องการใช้น้ำรายกิจกรรม ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน รวมทั้งสิ้น 83,085 ล้านลบ.ม. ทำให้ต้องนำน้ำฝนมาใช้อีก 63,072 ล้านลบ.ม. ถึงจะมีปริมาณน้ำที่เพียงพอ โดยนำมาใช้ในกิจกรรมด้านเกษตรกรรมที่มีแผนการเพาะปลูกพืชทั้งประเทศ 76.27 ล้านไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ในเขตชลประทาน 27.61 ล้านไร่ และพื้นที่นอกเขตชลประทาน 48.66 ล้านไร่

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ได้รับทราบสรุปผลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฤดูแล้ง ปี 2562/2563 ภายใต้การดำเนินการของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)​ ซึ่งได้รายงานผลการจัดสรรน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/2563 มีการจัดสรรน้ำ 13,643 ล้านลบ.ม. จากแผน 13,753 ล้านลบ.ม. คงเหลือ 110 ล้านลบ.ม. ขณะที่ แผนและผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/2563 มีการปลูกทั้งประเทศรวม 8.83 ล้านไร่ เกินแผน 1.62 ล้านไร่ จากแผนที่กำหนดไว้ 7.21 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 122 ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการเพาะปลูกพืช 3.92 ล้านไร่ เกินแผน 2.28 ล้านไร่ จากแผน 1.64 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 239

Advertisement

นายสมเกียรติ​ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ยังได้รับทราบผลการแก้ไขปัญหาสำคัญที่สามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ทันต่อสถานการณ์ อาทิ การแก้ไขปัญหาน้ำเค็มรุกตัวในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ควบคุมคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถนำไปผลิตน้ำประปาได้ และการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ให้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายให้มีน้ำใช้ตลอดฤดูแล้ง ปี 2563 เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image