ดีดีบินไทย รับปาก ไม่ปลดพนักงานภายใน1ปี ลั่น 5 ปี บินไทยฟื้นกลับมาแข็งแรง

ดีดีบินไทย รับปาก ไม่ปลดพนักงานภายใน1ปี ลั่น 5 ปี บินไทยฟื้นกลับมาแข็งแรง

เมื่อวันที่ 11มิ.ย. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการ คนที่ 2 และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)พร้อมด้วยฝ่ายบริหาร ได้กล่าวชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลแก่พนักงานเกี่ยวกับการเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท ในการประชุม Staff Meeting ระหว่างเวลา 13.00 – 15.00 น. โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง 1. THAISphere หัวข้อ “รู้ทันข่าว” 2. Microsoft Teams ที่ https://bit.ly/StaffMeeting11Jun20 และ3. Facebook Live Facebook Group “One TG”

โดยนายจักรกฤศฏิ์ ระบุว่า ในวันที่ 17 ส.ค.ศาลล้มละลายกลางจะนัดไต่สวนคำร้องในการฟื้นฟูกิจการของบริษัท โดยระหว่างนี้บริษัทจะต้องเร่งเจรจากับเจ้าหนี้เครื่องบิน เจ้าหนี้การค้า และเร่งทำความเข้าใจกับพนักงาน เพื่อไม่ให้เกิดการคัดค้านจากเจ้าหนี้และให้ศาลรับพิจารณาคำร้องเข้าสู่ขบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไปได้ ซึ่งศาลฯอาจจะใช้เวลาอีก 3-5เดือนในการพิจารณาหากแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบจากศาลฯ ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการบริหารแผนฟื้นฟูโดยระหว่างนี้ บริษัทจะต้องเร่งดำเนินการตามกลยุทธ์6ด้าน

 

1.ปรับฝูงบินให้มีประสิทธิภาพโดยลดประเภท และชนิดและจำนวนลงให้สอดคล้องกับปรับลดเส้นทางบินในอนาคต เพราะเป็นต้นทุนสำคัญ ซึ่งฝ่ายบริหารกำลังพิจารณาว่าควรลดจำนวนเครื่องบินเหลือกี่ลำ 2.ปรับลดเส้นทางการบิน จากปกติบิน6พันเที่ยว/ปี ซึ่งจะต้องชัดเจนว่าจะเหลือกี่เส้นทางเพราะจะส่งผลต่อการคำนวณรายได้ของบริษัท 3.เพิ่มประสิทธิภาพการหารายได้ ปรับปรุงระบบขายตั๋วให้ได้เงินเร็วขึ้น และลดขายผ่านเอเย่นต์เน้นขายออนไลน์ แบบขายราคาเดียว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างปรับระบบการขายตั๋วใหม่ คาดว่า เดือนก.ค. นี้จะนำระบบใหม่มาใช้ได้

Advertisement

4.ปรับโครงสร้างองค์กรลดบุคคลกรให้สอดคล้องกับจำนวนเส้นทางบิน 5.การประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องสิทธิ์ประโยชน์ต้องปรับปรุง เพื่อให้บริษัทกลับเข้าสู่มาตรฐานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และ6.เร่งขยายการลงทุนในหน่วยธุรกิจย่อย เช่น ครัวการบิน บริการภาคพื้น ฝ่ายช่าง คาร์โก้ และไทยสมายล์ โดยต้องออกไปหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ต่างชาติ รวมทั้งเร่งเจรจาขอให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) เข้ามาเป็นผู้ร่วมทุนในหน่วยธุรกิจของการบินไทย เพราะ ทอท.เป็นเจ้าของพื้นที่ที่บริษัทเช่าอยู่ และยังมีบริษัทลูกที่ทำธุรกิจคล้ายการบินไทยอีกด้วย ขณะที่ การหลุดจากรัฐวิสาหกิจ ทำให้บริษัทสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจาก ทอท.หายไป ทั้งการใช้พื้นที่ บริเวณสนามสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

นายจักรกฤศฏิ์ระบุว่าสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดในขณะนี้ คือการบริหารเงินสดให้เพียงพอในการดำเนินธุรกิจต่อไป ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกด้าน ขณะนี้การบินไทยยังคงมีเงินสดเหลือพอเนื่องจากในช่วง3เดือนที่ผ่านมา ได้ไล่เก็บหนี้ ถอนเงิน และลดค่าใช้จ่ายหลายส่วน หากธุรกิจเริ่มกลับมาบินได้ก็จะเป็นโอกาสที่ดี แต่อาจะไม่เต็มรูปแบบหากเงินสดเหลือน้อย ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอกู้เพิ่ม หากบริษัทจะกลับมาบินอีกครั้ง เพราะจะต้องมีค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและค่าประกันภัย

“ผมมองว่าภายใน 1-2ปีนี้ ธุรกิจการบินจะยัง ไม่สามารถกลับมาบินเต็มรูปแบบเหมือนในอดีตได้ เพราะปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตคนและการเดินทางเปลี่ยนไป อาจทำให้การบินไทยต้องปรับตัว แต่หากเราเดินไปตามกลยุทธ์6ด้านที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ผมคิดว่าภายใน5ปีหลังบริหารแผนเสร็จบริษัทจะกลับมาแข็งแรง และสามารถยืนได้ด้วยขาของตัวเองได้“

Advertisement

นายจักรกฤศฏิ์ ระบุว่า ในส่วนของพนักงานนั้นมีการถามเข้ามามากว่าจะตกงานไหม หรือจะมีงานทำต่อไหม ขอให้พนักงานมั่นใจว่าปัจจุบันทุกคนยังเป็นพนักงาน จะยังไม่ปรับลดพนักงานในช่วงนี้ เพราะต้องรอแผนการรับโครงสร้างองค์กรให้ชัดเจนก่อน หากแผนเสร็จจะบอกได้ว่าพนักงานในองค์กรจะต้องเหลือกี่คน จากนั้นจึงจะวางแผนปรับลดและหามาตรการเยียวยา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีกเป็นปีกว่าจะปรับลดพนักงาน
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างองค์กรอาจทำให้บริษัทมีทิศทางธุรกิจที่แน่นอน ว่าจะต้องขยายงานส่วนไหน อาจจะไม่ต้องปรับลดคนจำนวนมาก เพราะอาจจะต้องโอนย้ายพนักงานไปยังส่วนอื่นแทน ขอให้พนักงานทุกคนไม่ต้องกังวลมาก และขอให้ความร่วมมือการแก้ปัญหาเพื่อให้บริษัทต้อสู้ และผ่านวิกฤติที่หนักที่สุดไปให้ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image