‘ดับบลิวเอชเอ’ คว้างานเฟส 2 ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้ ‘อัสโน่ โฮริเอะ ประเทศไทย’

‘ดับบลิวเอชเอ’ คว้างานเฟส 2 ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้อัสโน่ โฮริเอะ ประเทศไทย’

นายนิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นในการให้บริการติดตั้งและการบริการแบบครบวงจรในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) อย่างต่อเนื่อง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับเลือกจากบริษัท อัสโน่ โฮริเอะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ได้เซ็นสัญญาให้บริษัทฯ ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานที่ 2 พื้นที่18,360 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 2,012 กิโลวัตต์ โดยคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จ ภายในเดือนตุลาคม 2563 และสามารถทยอยรับรู้รายได้สำหรับโครงการดังกล่าวได้ทันที ภายใต้อายุสัญญาในการให้บริการ 15 ปี

นายนิพนธ์กล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานแรก บนพื้นที่หลังคา 14,375 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 1,617 กิโลวัตต์ ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งแล้วเสร็จผลงานเป็นที่น่าพึงพอใจ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยอายุสัญญาให้บริการโซลาร์รูฟท็อปคือ 20 ปี รวมกับศักยภาพในการติดตั้ง และการให้บริการของบริษัทฯ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับโอกาสในการติดตั้งโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการที่ 2 กับบริษัท อัสโน่ โฮริเอะ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานของบริษัท อัสโน่ โฮริเอะ (ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้ง 2 เฟส มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 3,629 กิโลวัตต์ ซึ่งจะเป็นการนำกระแสไฟฟ้าไปใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งผลให้ยอดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 597 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายทั้งปี ที่มีการคาดการณ์ว่าจะมียอดกำลังผลิตไฟฟ้ารวมอยู่ที่ 591 เมกะวัตต์

นายฮิเดะฮิโกะ โฮะริ ประธานบริษัท อัสโน่ โฮริเอะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของดับบลิวเอชเอ ให้เป็นผู้ตัดตั้งโซลาร์รูฟท็อปส่วนเพิ่มเติม เนื่องจากดับบลิวเอชเอ เป็นผู้เชี่ยวชาญการออกแบบ ดำเนินการด้านวิศวกรรมติดตั้ง และก่อสร้าง พร้อมทั้งยังดูแลในด้านการขอใบอนุญาต และยังมีการบำรุงรักษาหลังการติดตั้งให้อย่างครบวงจร กอปรกับทีมบุคคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพในการให้บริการลูกค้า และมีความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงของทางลูกค้า โดยบริษัทฯ เห็นความสำคัญการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปตามนโยบายการประหยัดพลังงาน การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และลดภาวะเรือนกระจก โดยดับบลิวเอชเอโซลาร์รูฟท็อป ทั้งสองโครงการได้ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 230 ล้านบาท ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) สู่ชั้นบรรยากาศให้กับโรงงานอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image