‘เอกชน’ มอง ‘แทรเวล บับเบิล’ ทำยาก เชื่อไม่เห็นใน 6 เดือนนี้ ชี้ตลาดต่างชาติกลับมาอีกทีต้นปีหน้า
นางละเอียด บุ้งศรีทอง นายกสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) เปิดเผยว่า จากแนวคิดการจับคู่ประเทศท่องเที่ยวระหว่างกัน (แทรเวล บับเบิล) โดยจะทำสัญญากับประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมการระบาดโควิด-19 และให้สามารถเดินทางได้แบบไม่ต้องกักตัว 14 วัน เบื้องต้นเชื่อว่าคงไม่สามารถเห็นการทำแทรเวล บับเบิลได้เร็วภายใน 6 เดือนนี้แน่นอน เพราะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ต้องจัดการก่อน ทั้งความเชื่อมั่น ความปลอดภัย และความกังวลในส่วนของการกลับมาแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 โดยประเมินว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาภายในต้นปี 2564 หรือเร็วที่สุดเป็นช่วงสิ้นปีนี้ เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว แต่ในระยะสั้นๆ นี่ คงไม่ได้เห็นการกลับมาแน่นอน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและเศรษฐกิจของประเทศต้นทางด้วย ว่าจะมีกำลังพอในการออกเดินทางท่องเที่ยวหรือไม่ เพราะแม้จะมีความอัดอั้นและความต้องการเดินทาง แต่หากไม่มีเงินก็ไม่สามารถเดินทางได้ โดยหากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาได้เร็ว ผู้ประกอบการก็ดีใจ เพราะมีรายได้เข้ามาเกิดการสร้างงานและเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
นางละเอียดกล่าวว่า สิ่งที่อยากเห็นรัฐบาลทำในตอนนี้คือ ขับเคลื่อนและผลักดันให้บุคลากรของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานภาครัฐ มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ทั้งการเดินทางจัดประชุมสัมมนา ประชุมเชิงวิชาการ หรือการเดินทางเชิงธุรกิจ เพราะหากอาศัยการเดินทางของเอกชนก็คงจะไม่ไหว เนื่องจากเศรษฐกิจในบริษัทก็ไม่ดี สภาวะของการที่ต้องใช้จ่ายเยียวยาลูกจ้างยังอยู่ ขณะที่รายได้หายไปเกือบทั้งหมด แต่ต้นทุนยังมีอยู่ ซึ่งทุกอย่างรวมเป็นค่าใช้จ่ายที่ยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจในบริษัทจะดีขึ้นได้หรือไม่ ในส่วนของแพคเกจที่รัฐบาลจะออกมาทั้ง 3 แพคเกจ มองว่าน่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้ในระดับหนึ่ง ช่วง 4 เดือนต่อจากนี้ได้ แต่แทรเวล บับเบิลประเมินว่าคงยังไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เพราะมีปัจจัยและเงื่อนไขอีกมากที่ต้องจัดการก่อน รวมถึงยังมีความเสี่ยงในการกลับมาระบาดรอบ 2 ของโควิด-19 เพราะไม่รู้ว่าจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าการเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา และการเดินทางออกไป จะปลอดภัยได้จริงๆ
“ไตรมาส 4/2563 การจะเข้ามาเที่ยวในประเทศ จะต้องดูว่ามีสายการบินเปิดมากน้อยเท่าใด เพราะการเข้ามาเที่ยวของตลาดต่างชาติ จะทำไม่ได้เลย หากไม่มีการบิน โดยมองว่าขึ้นอยู่กับสายการบินจริงๆ ว่าจะกลับมาทำการบินได้ตามปกติหรือไม่ เพราะเจอทั้งต้นทุนที่สูงมากขึ้น และการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ต้องเว้นที่นั่ง ซึ่งทำให้ขายตั๋วได้น้อยลง การบินในแต่ละเที่ยวบิน รายได้จะไม่เท่าเดิม ในขณะที่ต้นทุนมีเท่าเดิม หรือมากขึ้นในบางรายการด้วย โดยการทำแทรเวล บับเบิลกับประเทศที่มีความพร้อม จะต้องประเมินว่า เศรษฐกิจของประเทศต้นทาง มีความสามารถในการสนับสนุนให้สายการบินในประเทศ ทำการบินไปยังประเทศอื่นๆ มากหรือน้อยเท่าใดด้วย โดยเบื้องต้นมองว่าการทำสัญญากับประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดใหญ่ๆ มีจำนวนประชากรมาก และที่ผ่านมาก็เป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวไทยเป็นหลัก น่าจะสามารถทำได้ก่อน อาทิ จีน กลุ่มอาเซียน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเกา สิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็เป็นประเทศคู่ค้าในด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันอยู่แล้ว แต่ต้องประเมินความปลอดภัยและมีความมั่นใจมากแล้วจริงๆ” นางละเอียดกล่าว
