‘ฟู้ดอโมเม้นท์’ ปรับทัพรับตลาดแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดโต เล็งพาแบรนด์ “ลูกชิ้นจัง” เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

ฟู้ดอโมเม้นท์ปรับทัพรับตลาดแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดโต เล็งพาแบรนด์ลูกชิ้นจังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดอโมเม้นท์ จํากัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ริเริ่มทำธุรกิจแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดหรือผลิตภัณฑ์อาหารทานเล่นมาตั้งแต่ปี 2551 นำร่องด้วยการสร้างแบรนด์ลูกชิ้นจังซึ่งเป็นแฟรนไชส์ลูกชิ้นทอดรายแรกในตลาดเมืองไทย โดยสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากธุรกิจของครอบครัวที่เปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับลูกชิ้นมานานกว่า 30 ปี ประกอบกับการได้ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคและแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้น ขณะที่การแข่งขันยังคงไม่สูงนักเพราะมีคู่แข่งน้อยราย ถือเป็นโอกาสที่ผลักดันให้เกิดการต่อยอดสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ลูกชิ้นทอด โดยชูจุดแข็งในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความหลากหลาย รวมถึงระบบการคัดเลือกและบริหารร้านแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐานเดียวกันทุกร้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าแก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจัดจำหน่ายของพันธมิตรทางธุรกิจ

ปัจจุบันแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังมีสาขามากถึง 600 สาขา ครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและแหล่งชุมชนในจังหวัดต่างๆ อีกทั้ง ยังมีร้านสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และห้างสรรพสินค้าถึง 80 สาขา โดยเป็นสาขาที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ มากถึง 30 สาขา เพื่อเป็นสาขานำร่องในการทำตลาดสินค้าใหม่ให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายผ่านสาขาร้านแฟรนไชส์และสาขาของบริษัทที่ตั้งอยู่ในสถานบริการน้ำมัน ปตท. ได้ถึง 100 ล้านบาทต่อปีนายเจตุบัญชากล่าว

นายเจตุบัญชากล่าวว่า สำหรับแผนต่อไปในการขยายธุรกิจของฟู้ดอโมเม้นท์ให้เติบโตขึ้น นายเจตุบัญชา เผยว่าจากภาพรวมตลาดของทานเล่นในประเทศไทยที่มีมูลค่าประมาณ 38,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มเติบโตขึ้นปีละ2-3%  ถือเป็นโอกาสที่บริษัทฯ ต้องเร่งวางแผนการดำเนินงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อขยายแฟรนไชส์ลูกชิ้นจังเพิ่มจาก 600 สาขา เป็น 1,000 สาขา โดยให้ความสำคัญกับการเปิดสาขาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นหลัก ด้วยแนวคิดการอยู่คู่นักเดินทางเพื่อขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มนักเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทฯ จะดำเนินการบริหารงานเพื่อควบคุมดูแลคุณภาพสินค้าและบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

นายเจตุบัญชากล่าวว่า ส่วนแผนในระยะยาวนั้น บริษัทกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อเปิดโอกาสในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งรองรับแผนขยายธุรกิจและยกระดับสตรีทฟู้ด (Street Food) ของประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายขยายฐานลูกค้านักเดินทางทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 3 ปี หรือมียอดขายรวม300-400 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 30% ของมูลค่าตลาดลูกชิ้นทอด 1,000 ล้านบาท

Advertisement

ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดลูกชิ้นทอดเป็นจำนวนมาก ทั้งในรูปแบบแบรนด์และไม่มีแบรนด์ ซึ่งในรูปแบบแบรนด์นั้นมีเพียงไม่กี่รายที่ยังดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ได้ โดยจะต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ วิธีการปรับตัวและรับมือกับลูกค้าและคู่ค้า ซึ่งจากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจลูกชิ้นทอดมากว่า 17 ปี จึงมั่นใจว่าจะสามารถนำพาธุรกิจได้อย่างมั่นคง แข็งแกร่ง พร้อมเติบโตไปกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างยั่งยืนนายเจตุบัญชากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image