‘กสทช.’ ยันมติจ่ายค่าคลื่น 2600 ให้ อสมท เป็นธรรม ไม่พอใจฟ้องศาลได้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เตรียมยื่นอุทธรณ์มติที่ประชุม กสทช. เรื่องการกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่ของ อสมท เพื่อใช้กำหนดค่าทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทน การถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ในย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายเยียวยาให้แก่ อสมท จำนวน 3,235.83 ล้านบาท ว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ได้ลงนามในหนังสือแจ้งมติที่ประชุม กสทช. ที่พิจารณากรอบวงเงินเยียวยา ส่งไปที่ อสมท แล้ว หาก อสมท จะมีการโต้แย้งในส่วนของกรอบวงเงินที่ได้รับ จะต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองภายใน 90 วัน เนื่องจากที่ประชุม กสทช. มีมติไปแล้ว และเป็นการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยนำผลการศึกษาของสถาบันที่มีความน่าเชื่อถือมาพิจารณาอย่างเป็นธรรม
นายฐากร กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องการแบ่งเงินเยียวยาให้กับ อสมท และบริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด คู่สัญญาในการบริหารเนื้อหาและการตลาด โครงการโทรทัศน์บอกรับสมาชิกนั้น ที่ประชุม กสทช. พิจารณาการแบ่งเงินเยียวยา ตามหนังสือของ อสมท ที่ นร 6100/1250 เรื่องแจ้งยืนยันรายละเอียดและสัดส่วนการชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ซึ่งส่งมาให้ สำนักงาน กสทช. แต่ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือร้องเรียนมาว่า นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมผู้อำนวยการใหญ่ อสมท ไม่มีอำนาจในการแบ่งเงินเยียวยาเอง ดังนั้น สำนักงาน กสทช. จะนำเรื่องเข้าที่ประชุม กสทช. ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 ซึ่งอาจมีการพิจารณาเรื่องอำนาจในการแบ่งเงินเยียวยาอีกครั้ง โดยพิจารณาว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท มีอำนาจในการแบ่งเงินเยียวยา ตามหนังสือที่แจ้งมายัง กสทช. หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ยืนยันว่า ที่ประชุม กสทช. จะมีการพิจารณาหรือไม่ เนื่องจากการพิจารณาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ มีหลักฐานหรือข้อมูลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงใหม่เพิ่มเติม โดยสำนักงาน กสทช. จะรวบรวมเอกสาร ข้อมูลและข้อกฎหมายภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อสรุปข้อเท็จจริงเสนอเข้าที่ประชุม กสทช. พิจารณาว่าควรจะทบทวนความเห็นเรื่องการแบ่งค่าเยียวยาหรือไม่
“ถ้า อสมท เห็นว่าการแบ่งเงินมีความไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกเหตุใด อสมท จึงส่งหนังสือแจ้งเรื่องนี้มาที่สำนักงาน กสทช. ซึ่ง อสมท ควรพิจารณาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาในการบริหารภายในของ อสมท หรือไม่” นายฐากร กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กสทช. วันที่ 10 มิถุนายน 2563 มีมติ ได้แก่ 1.การกำหนดระยะเวลาการถือครองคลื่นความถี่ของ อสมท เพื่อใช้กำหนดค่าทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ ให้นับเอาระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2562 ที่ กสทช. มีมติให้คืนคลื่นความถี่จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2565 เป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี
รวมกับระยะเวลาการพิจารณาสิทธิในการใช้งานคลื่นความถี่ดังกล่าวที่ทำให้ อสมท ขาดความชัดเจนในสิทธิการใช้งานคลื่นความถี่ดังกล่าว โดยเป็นเวลาตั้งแต่วันที่แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่มีผลบังคับใช้ (20 เมษายน 2555) ถึงวันที่ อสมท ได้รับทราบสิทธิการใช้งานคลื่นความถี่ดังกล่าว (23 กันยายน 2558) เป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี 5 เดือน รวมทั้งสองช่วงเวลาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 ปี 5 เดือน มูลค่าของการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนจำนวน 3,235,836,754 บาท
2.รับทราบและให้ อสมท ปฏิบัติตามหนังสือของ อสมท ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ต่อไป และ 3.มอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการจ่ายเงินให้กับ อสมท ตามข้อ 2 และตามเงื่อนไขของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ได้ศึกษาเรื่องนี้ แบ่งเป็น งวดที่ 1 ปี 2563 เป็นเงิน 146.33 ล้านบาท ขณะที่ ปี 2564-67 ยกเว้นไม่ต้องชำระตามเงื่อนไขการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกะเฮิรตซ์ ส่วนงวดที่ 2 ปี 2568 ถึงงวดที่ 7 ปี 2573 ชำระงวดละ 514.92 ล้านบาท
