‘พิพัฒน์’ แจงพักแนวคิด ‘แทรเวล บับเบิล’ เหตุสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่เล็งไว้ยังไม่นิ่ง
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กรณีการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศ (แทรเวล บับเบิล) ที่จะเลือกประเทศที่มีความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดีไม่แตกต่างกัน ซึ่งจะอนุญาตให้สามารถเดินทางเข้าหรือออกไปในประเทศที่จับคู่กันโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ขณะนี้ได้มีการหารือกันเบื้องต้นระหว่าง 4 กระทรวงแล้ว ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวฯ แต่ยังไม่ได้มีการหารือแบบเป็นทางการในแนวคิดหรือหลักเกณฑ์ปฏิบัติ ทำให้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวออกมา เนื่องจากประเทศที่พิจารณาเบื้องต้นว่า มีความพร้อมและดูมีความสามารถในการควบคุมโควิด-19 ได้ดี ขณะนี้พบว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น จนเกิดการกลับมาระบาดระลอก 2 อีกครั้ง ทำให้การเจรจาร่วมกับประเทศที่มองไว้ในขั้นต้นต้องชะลอไว้ก่อน
“การจับคู่ทำแทรเวล บับเบิลระหว่างกัน ยังต้องพิจารณาเงื่อนไขในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการควบคุมโควิด-19 ที่เป็นปัจจยหลักในการพิจารณา ซึ่งไม่ใช่แค่ไทยที่มีการพิจารณาในเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ แต่ต่างประเทศที่จะจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน ก็มีการประเมินปัจจัยเหล่านี้เหมือนกัน ทำให้ขณะนี้จึงยังไม่กล้ายืนยันว่า แนวคิดนี้จะทำได้หรือไม่ แล้วหากทำได้ จะสามารถทำในช่วงใด เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ และในไทยเป็นหลักจริงๆ ซึ่งไม่มีความแน่นอนเลย” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์กล่าวว่า แนวคิดแทรเวล บับเบล เป็นการทำงานร่วมกันใน 4 กระทรวง ทำให้ขั้นตอนการประสานงานและหารือกันต้องใช้ระยะเวลาสักพัก แต่จากการหารือกันในช่วงที่ผ่านมา ประเมินว่าสิ้นเดือนนี้ น่าจะมีความชัดเจนในด้านใดออกมาบ้าง โดยการประเมินความพร้อมของประเทศที่จะทำการจับคู่ท่องเที่ยวกันนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ประเมินรายละเอียดต่างๆ ในส่วนของกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำการบ้านล่วงหน้าไปก่อน ในการประเมินความพร้อมของแต่ละประเทศ เนื่องจากททท. มีสำนักงานในหลายประเทศที่สามารถติดตามสถานการณ์ในประเทศนั้นๆ ได้อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เพื่อให้หากรัฐบาลปลดล็อกและอนุญาตให้ทำการจับคู่ท่องเที่ยวกันได้แล้ว จะสามารถดำเนินการประสานกับประเทศที่มีความพร้อมได้ทันทีต่อไป
