หุ้นแบงก์ไทยเตรียมรับแรงกระแทก หลัง ธปท.สั่ง “งดปันผล-ซื้อหุ้นคืน”
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน จับตาตลาดหุ้นวันนี้ หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และงดซื้อหุ้นคืน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทำให้การรักษาภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจ และระบบสถาบันการเงิน
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย หุ้นกลุ่มแบงก์มีประเด็นกระทบเฉพาะตัวเข้ามาคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศงดจ่ายปันผลระหว่างกาล และงดซื้อหุ้นคืน หุ้นแบงก์ส่วนใหญ่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลเกือบหมด ได้แก่ เคเคพี เอสซีบี บีบีแอล เบย์ เคแบงก์ ทำให้อาจได้รับผลกระทบจากการประกาศของธปท. ในส่วนของบรรยากาศตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะเซลงเล็กน้อย แต่เชื่อว่าคงถูกแรงกระแทกไม่มากนัก เพราะนักลงทุนน่าจะสามารถโยกย้ายเม็ดเงินไปลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่นก่อน เพื่อรอให้ตลาดกลับมานิ่งอีกครั้ง
“หุ้นแบงก์เป็นกลุ่มปรับลดลงมาสูงมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงคาดว่าคงไม่ได้ปรับลดลงอย่างร้อนแรงมากนัก แต่แรงกระแทกก็มีอยู่แน่นอน โดยนักลงทุนอาจเปลี่ยนกลุ่มไปลงทุนในหุ้นกลุ่มอื่น อาทิ ปูนใหญ่ และ แบม ที่มีปันผลดีและมีขนาดใหญ่ หุ้นกลุ่มไอซีที อาทิ อินทัช แอดวานซ์ รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่มีทิศทางดีขึ้น หลังจากราคาน้ำมันปรับระดับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นเป้าหมายของเม็ดเงินคาดว่าจะไหลเข้าไปพักจากกลุ่มแบงก์ได้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ติดลบ 300 กว่าจุด เพราะกังวลการกลับมาระบาดรอบ 2 ของสหรัฐ อาจรุนแรงขึ้นได้ การประเมินบรรยากาศตลาดหุ้นไทย จึงทำได้ค่อนข้างยาก แต่ให้แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,350 จุด หากดัชนีหลุดระดับ 1,340 จุด จะถือเป็นบรรยากาศที่ไม่ดีในการลงทุนในหุ้นไทย” นายวิจิตร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หุ้นผันผวนหนัก ปรับลงลึกกว่า 10 จุด ได้แรงหนุนน้ำมันพุ่งอุ้มดัชนี ปิดตลาดบวก 1.52 จุด
- สงครามเดือดทุบหุ้นไทยร่วง 13 จุด หลังขึ้นตามแรงซื้อวายุภักษ์-สถาบันซื้อสูงสุดรอบ 1 ปี 4 เดือน
- หุ้นไทยดีดแรง บวก 14.44 จุด รับแนวโน้มสงครามคลายกังวล-แรงซื้อกลุ่มพลังงาน-แบงก์
- บี.กริม เพาเวอร์ ซื้อหุ้น ARECO ลุยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรัฐฟิลิปปินส์