‘สมคิด’ ดัน ธ.ก.ส.อัด 3 แสนล้าน ฟื้นศก.ฐานราก ช่วย 2 ล้านคน ตกงานกลับบ้าน
ผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในด้านสุขภาพมีทิศทางคลี่คลายจากการที่ไม่มีผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศติดต่อกันร่วม 30 วัน แต่สถานการณ์ด้านปากท้องประชาชน และภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมส่งให้มีคนตกงานนับล้านคน กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขและวางมาตรการรองรับ
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานแถลงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทยและโครงการ New Gen Hag บ้านเกิด ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยต้องหยุดชะงักไป 1 ไตรมาส รัฐบาลต้องเยียวยาคนที่เดือดร้อน ประเมินว่าเดือนกรกฎาคมจะเริ่มมีธุรกิจทยอยปิดตัว ทำให้คนเกือบ 2 ล้านคนตกงานต้องกลับถิ่นฐานกลับบ้านเกิดในชนบท ดังนั้นในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมต้องเร่งคิกออฟโครงการเพื่อสร้างรายได้ให้คนกลุ่มนี้ ล่าสุด ธ.ก.ส.เริ่มดำเนินโครงการฟื้นฟูเกษตรกร เป้าหมายคือ ต้องการให้เกิดความเข้มแข็งการผลิตเกษตร ไม่อยากให้มาช่วยเหลือแบบจำนำข้าวทุกปี เพราะแบบนี้เป็นวิธีโบราณแล้ว
นายสมคิดกล่าวว่า โครงการของ ธ.ก.ส.ที่จัดทำคือ โครงการเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทย มีทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการเสริมสร้างความมั่นคงระดับครัวเรือน (ตั้งหลัก) ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วงเงินงบประมาณ 170,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก 10,720 ล้านบาท 2.โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งระดับชุมชน (ตั้งฐาน) วงเงินงบประมาณ 70,000 ล้านบาท รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมอีก 22,000 ล้านบาท และ 3.โครงการเสริมสร้างความยั่งยืนของเศรษฐกิจฐานราก (ตั้งมั่น) วงเงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท มีงบสนับสนุนจากรัฐอีก 21,675 ล้านบาท รวมวงเงินกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก
