ตลาดอีสปอร์ตไทย มูลค่า 2หมื่นล. ‘เอไอเอส’ โหมหนักหนุนฟื้นศก. ดันคอมมูนิตี้ฮับแรกในอาเซียน
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คนไทยต้องกักตัวและเว้นระยะห่างทางสังคม (โซเชียล ดิสแทนซิ่ง) พบว่าคนไทยใช้ชีวิตอยู่บนออนไลน์มากขึ้น ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจคือการเล่นกีฬาอีสปอร์ต ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากการเล่นผ่านออนไลน์
นายปรัธนา กล่าวว่า เอไอเอส มองเห็นศักยภาพของกีฬาอีสปอร์ตที่จะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการฟื้นฟูและสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ จึงสนับสนุนอุตสาหกรรมอีสปอร์ต ทั้งการเปิดตัวเอไอเอสอีสปอร์ต สตูดิโอ คอมมูนิตี้ เพื่อคอเกมเมอร์และคนรุ่นใหม่แห่งแรกในไทย และหวังจะคอมมูนิตี้ฮับอีสปอร์ตแรกในอาเซียน นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัย และพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตทั้งอีโคซิสเต็ม
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอีสปอร์ตในไทยมีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท มีแนวโน้มขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2 หลักในทุกๆ ปี นอกจากนี้ ปี 2561 ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้ จำนวน 2.6 ล้านคน เติบโตจากปีก่อน 45% และในปี 2562 มีจำนวน 3.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% และในสิ้นปี 2563 นี้คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้อง 4.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24% จากปีที่ผ่านมา สำหรับการลงทุนในเชิงอีสปอร์ต เอไอเอสมีบทบาทคือผู้ให้บริการ มีการลงทุนจาก 4Gสู่ 5G โดยปัจจัยที่ผลักดันให้เติบโตคือการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต คอนเน็คทิวิตี้ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของไทยที่แข็งแรงมาก ทำให้อีสปอร์ตในไทยสามารถเติบโตได้อย่างสูงมาก
ทั้งนี้ นายปรัธนา ยังกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า มีกฎหมายใหม่ที่อยู่ระหว่างการร่างกฎหมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะนำมาใช้ควบคู่กับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีสปอร์ต ที่จะมีการเก็บภาษีเงินได้จากแพลตฟอร์มต่างประเทศ ทั้งเพลง เกม หนัง ซึ่งได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากหากผ่านร่างกฎหมายแล้ว การจะแข่งขันเกมใดๆ จะต้องมีการขออนุญาต ห้ามแข่งขันเกมที่มีเนื้อหารุนแรง, ห้ามสตรีมเกมเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเรื่องสุขภาพ และอื่นๆ ซึ่งเป็นการบีบข้อจำกัดของการแข่งขันกีฬาแบบอีสปอร์ตให้แคบลงเข้าไปอีก
“ไม่มีคอมเมนต์และไม่กล้าคอมเมนต์ แต่ยอมรับอีสปอร์ตเป็นเรื่องที่ใหม่ ดังนั้น กฎกติกา มารยาท จึงจะค่อยๆ พัฒนาไป ในเชิงการพัฒนาและกฎหมายควบคู่กันไป แต่หลังจากทุกอย่างนิ่ง ภาพจะชัดมากขึ้น และสุดท้ายแล้วคิดว่าทุกอย่างจะบวกต่อประเทศในภาวะอุตสาหกรรมแบบนี้” นายปรัธนา กล่าว
