หุ้นไทยเปิดตลาดย่อตัว ลบ 1.66 จุด หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลโควิดระบาดรอบ 2
วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,354.01 จุดเคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,352.65 จุด ปรับลดลง 1.66 จุด หรือ 0.12% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,356.30 จุดและทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,356.30 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 12,323.07 ล้านบาท
โดยนายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย เปิดตลาดมามีมุมมองเป็นกลาง โดยคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบระดับ 1,345 – 1,365 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้บรรยากาศเชิงบวกจากความคืบหน้าวัคซีน mRNA-1273 เพื่อรักษาไวรัสโควิด-19 รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเหนือ 41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 7.5 ล้านบาร์เรล และโอเปกพลัสมีมติผ่อนคลายข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (จากปัจจุบันที่ปรับลด9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน) อย่างไรก็ตาม ความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 ในไทยจะกลับมาระบาดรอบ 2 รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องล่าสุดเพิ่มขึ้นอีกราว 7 หมื่นรายจะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลงอีก
นายชัยยศกล่าวว่า ส่วนกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุนคือ เลือกสะสมหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IRPC, SPRC, IVL เพราะได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น กลุ่มอาหาร ได้แก่ TU, CPF, GFPT, TFG, ASIAN และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ KCE, DELTA, HANA, SVI ที่ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง กลุ่มที่คาดว่างบไตรมาส 2/2563 จะเติบโตขึ้นดี ได้แก่ TOP, PTTGC, SPRC, SCC, BGRIM, CKP, CPF, TU, TASCO, STA, STGT, SPALI, PRM, PTL, AJ, STARK, CBG และหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการช่วยเหลือการท่องเที่ยวในประเทศที่ออกมาในส่วนของเที่ยวปันสุข ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW
