‘จุรินทร์’บุกตลาดลำไย จับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ 2 วัน ตั้งเป้า 11,000 ตัน 550 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามงานกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่จะช่วยเกษตรกรหาตลาดลำไย ด้วยการกิจกรรมจับคู่ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยประชุมทางไกลข้ามประเทศและติดตามการรายงานงานกับพาณิชย์จังหวัดกับผู้ประกอบการ พร้อมกันด้วย

นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องหาตลาดในประเทศให้ลำไย โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจำหน่ายให้กับลูกค้าต่างประเทศมาใช้ระบบออนไลน์ด้วยการจัดระบบการจับคู่ทางธุรกิจ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศให้มาพบกันบนออนไลน์ซึ่งการจัดจับคู่ธุรกิจเที่ยวนี้ประกอบด้วยผู้ส่งออกไทย 27 รายและผู้นำเข้าจาก 8 ประเทศ 65 บริษัทด้วยกัน ซึ่งปกติตลาดลำไยส่งออกของไทยเกือบจะเรียกได้ว่าทั้งหมดเป็นตลาดจีน มีเวียดนามบ้างบางส่วนซึ่งเวียดนามก็ส่งออกไปยังจีน และมีอินโดนีเซียส่วนนึง แต่ว่าครั้งนี้เป็นเป้าหมายที่ต้องการที่จะขายตลาดเพิ่มเติมนอกจากตลาดจีน ตลาดอินโดนีเซีย ก็มีการนำผู้นำเข้าจากประเทศอื่นๆมาร่วมจับคู่ทางธุรกิจออนไลน์ร่วมด้วย ประกอบด้วยฮ่องกง อินเดีย บังคลาเทศ สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน ฝรั่งเศส นอกเหนือจากประเทศจีน

ซึ่งจะเป็นช่องทางการขยายตลาดเพื่อเตรียมตลาดสำรองไว้นอกจากตลาดจีน รวมทั้งสำรองไว้นอกจากตลาดอินโดนีเซีย คาดว่าจะมีการจับคู่ทำสัญญากันได้ไม่ต่ำกว่า 290 คู่ สำหรับการดำเนินการเที่ยวนี้ในช่วงสองวันคือวันนี้กับวันพรุ่งนี้ ก็มีเป้าหมายทั้งหมด 11,000 ตันและในวงเงินคาดว่าประมาณ 550 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ ซึ่งในช่วงยังไม่ครบวันสำหรับวันนี้ขายไปได้แล้ว 4,000 กว่าตันโดยขายให้กับชิงเต่าจากประเทศจีน แต่ก็มีการทำสัญญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงระยะเวลานี้ สำหรับแผนงานต่อไปในเดือนหน้าก็จะจัดรูปแบบลักษณะนี้อีกครั้งหนึ่งโดยจะเพิ่มในตลาดเมียนม่า ตลาดมาเลเซีย ตลาดญี่ปุ่น และตลาดไต้หวัน นอกจากตลาดจีนซึ่งถือว่าเป็นตลาดหลักของเรา

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ผลผลิตลำไยที่คาดการณ์ไว้สำหรับปีนี้จะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 20% คาดการณ์ไว้โดยกระทรวงเกษตร แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มาเจอปัญหาช่วงนี้ ในเรื่องของคุณภาพพอดีเจอฝนก็ทำให้ตลาดพรีเมียมโดยเฉพาะตลาดจีนติดขัด เนื่องจากผู้ส่งออกบอกว่าทำให้ลำไยผิวคล้ำขึ้นซึ่งตลาดจีนต้องการผิวสีอ่อนและสวยลูกใหญ่ ถ้าตลาดผิวคล้ำอาจจะเป็นที่ต้องการของประเทศอินโดนีเซีย ต้องปรับตลาดไปสู่ตลาดอินโดนีเซียให้มากขึ้นรวมทั้งตลาดใหม่ๆที่เราเตรียมการไว้

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image