โคโรลล่า ครอส ทีเด็ดใหม่ค่ายโตโยต้า : โดย นายพล

โคโรลล่า ครอส ทีเด็ดใหม่ค่ายโตโยต้า : โดย นายพล

ถือว่าเป็นอีกย่างก้าวที่สำคัญของค่ายโตโยต้า เมื่อบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ ที่ทางโตโยต้าเรียกว่ารถเอสยูวี ครั้งแรกของโลก ที่ประเทศไทยกับ โคโรลล่า ครอส ใหม่ (All-New Corolla CROSS)

เป็นการนำแพลตฟอร์มของโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ที่ขายดิบขายดี ทำเป็นแท็กซี่และรถยนต์ส่วนบุคคล วิ่งอยู่ตามท้องถนนทั่วประเทศไทย

สูตรสำเร็จที่ทำให้ค่ายโตโยต้า กลายเป็นค่ายรถชั้นนำของโลก กลยุทธ์หนึ่งในหลายด้านก็คือ การผลิตรถยนต์ตอบโจทย์การใช้งานของบุคคลทั่วไป หรือที่เรียกในเชิงการตลาดว่า ตลาดแมส

Advertisement

การผลิตสินค้าออกมาหนึ่งอย่าง สามารถปรับการใช้งานได้กับในรถหลายรุ่น ถือว่าเป็นไม้เด็ดของพี่ใหญ่โตโยต้า

Advertisement

ยกตัวอย่างเช่น ผลิตสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ก็สามารถนำหลักการมาใช้กับรถโตโยต้าได้แทบทุกรุ่น หรือกรณี โตโยต้า ยาริส ก็ปรับจากรถขนาด 1.5 ลิตร มาเป็นประมาณ 1.2 ลิตร หรืออย่างกรณีของ โคโรลล่า อัลติส ก็นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นโตโยต้า โคโรลล่า ครอส รุ่นใหม่ล่าสุดนี้

ดังนั้น ครอสก็คือ อัลติสในรูปแบบของรถยนต์อเนกประสงค์ เพราะรถประเภทนี้กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก

ส่วนความแตกต่างระหว่างครอสกับซี-เอชอาร์ แม้ว่าจะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เหมือนกัน แต่ ซี-เอชอาร์ จะเน้นความสปอร์ต ดูสดใสกว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะอายุน้อยกว่า ครอสมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าครอบครัวใช้ชีวิตในเมืองมากกว่า

เมื่อเร็วๆ นี้ โตโยต้าจัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับในสนามทดสอบของโตโยต้าย่านบางนา แม้ว่าจะเป็นการทดลองขับช่วงสั้นๆ แต่ทำให้เห็นถึงจุดเด่นของครอส ในหลายๆ ด้าน

เริ่มจากรูปร่าง โคโรลล่า ครอส แม้ว่าดูในรูปแล้วจะดูคันไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าใครได้เห็นตัวจริงแล้วจะพบว่าใหญ่กว่าในรูป ด้วยดีไซน์และการออกแบบฐานล้อกว้าง มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบแอลอีดี ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นสูงๆ ขึ้นไป ส่วนภายในมี สีแดงใหม่ เทอร์ร่า รอสซา (Terra Rossa) จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ เอ็มไอดี (MID-Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว

เครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร บล็อกเดียวกับอัลติส ส่วนระบบไฮบริดเป็นแบบรุ่นใหม่ล่าสุด เจเนเรชั่นที่ 4 พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ทางโตโยต้าชี้แจงมาว่าเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 98 กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนรุ่นล่าสุดใช้เครื่อยนต์เบนซิน อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 150 กรัมต่อกิโลเมตร

แพลตฟอร์ม TNGA มาใช้ควบคู่กับช่วงล่างแบบคานแข็งพัฒนาขึ้นมาใหม่ เพื่อปรับช่วงล่างให้เหมาะกับรถยนต์อเนกประสงค์ การเกาะถนนทำได้ดีในระดับหนึ่ง ยังไม่ถึงกับโดดเด่นมากนัก แต่ความนุ่มนวลชัดเจนมาก

ด้านความสะดวกสบาย มีพื้นที่จุสัมภาระได้มากถึง 487 ลิตร ห้องโดยสารประตูด้านหลังขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้โดยสารขึ้นลงจากรถได้สะดวก มีการออกแบบที่ว่างเหนือศีรษะให้สูงพอดี ทำให้รู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัด

ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซ็นเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ คิก แอกติเวท (Kick Activated) หรือใช้เท้ายื่นไปใต้ท้องรถด้านหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการขนสัมภาระเก็บของท้ายรถ

เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบคู่ หรือดูอัล โซน (Dual Zone) พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อยูเอสบีสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง อย่างไรก็ตาม เบาะที่นั่งถ้ายาวกว่านี้อีกสักนิดน่าจะช่วยให้นั่งสบายมากกว่านี้ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิ่งทางไกล

ส่วนระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้ามาแบบครบครัน (Toyota Safety Sense) ทั้งระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist) ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist) และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)

รวมทั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) และถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง (Air Bags)

สำหรับด้านความบันเทิง มีจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และที-คอนเนคต์

โคโรลล่า ครอส ใหม่ มี 4 รุ่น แบ่งเป็นรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด ได้แก่ รุ่น 1.8 สปอร์ต ราคา 989,000 บาท แต่ช่วงแนะนำจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ราคาพิเศษ 959,000 บาท รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ ได้แก่ ไฮบริด สมาร์ท ราคา 1,019,000 บาท รุ่น ไฮบริด พรีเมียม ราคา 1,089,000 บาท และรุ่นไฮบริด พรีเมียม เซฟตี้ ราคา1,199,000 บาท

สัมผัสและทดลองขับครอส ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2563 และงาน บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ในวันที่ 15-26 กรกฎาคม 2563

โดยภาพรวมแล้ว ครอสเป็นรถที่ไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์แต่อย่างใด แต่เป็นรถประเภทใช้งานได้หลากหลาย เพราะปัจจัยเรื่องควบคุมต้นทุนการผลิต จำเป็นต้องกดราคาไม่ให้สูงเกินไป ทำให้ไม่ได้ใส่อุปกรณ์อีกหลายๆ อย่าง ตามความคาดหวังของหลายๆ คน

แต่อย่าลืมว่า แนวคิดของรถคันนี้คือ การนำดีเอ็นเอของโคโรลล่ามาพัฒนาเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ และโคโรลล่าคือรถที่ขายดีที่สุดในโลกของโตโยต้า นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกในญี่ปุ่นปี 2509 จนถึงปัจจุบันขายมาแล้ว 150 ประเทศทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสมถึง 48 ล้านคัน

ที่สำคัญการเปิดตัว โตโยต้า ครอส ครั้งนี้ นับว่าเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลก หลังจากนี้มีคิวไปเปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น ในโอกาสต่อไป

โคโรลล่า ครอส จะถูกส่งออกจากโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ที่ฉะเชิงเทรา ถือเป็นรถที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก

แล้วอย่างนี้ เชื่อว่าโตโยต้าคงไม่ปล่อยให้ล้มเหลวแน่นอน

นายพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image