ทองคำพุ่งไม่หยุด ขึ้นพรวด 250 บาท ลุ้นราคาทะลุ 29,000 บาท มองโอกาสแตะ 30,000 บาท ยังไกล

ทองคำพุ่งไม่หยุด ขึ้นพรวด 250 บาท ลุ้นราคาทะลุ 29,000 บาท มองโอกาสแตะ 30,000 บาท ยังไกล

วันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองคำในประเทศว่า สมาคมค้าทองคำมีการปรับเปลี่ยนราคาทองคำ 9 ครั้ง โดยครั้งแรกปรับเพิ่มขึ้นทันที 150 บาท และปรับขึ้น 7 ครั้ง จำนวนครั้งละ 50 บาท ก่อนปรับลดลง 1 ครั้ง จำนวน 50 บาท ทำให้ราคาทองแท่งขายออก อยู่ที่บาท (บาททองคำ) ละ 28,400 บาท รับซื้อ 28,300 บาท ส่วนทองรูปพรรณ ขายออก 28,900 บาท รับซื้อ 27,788.28 บาท ส่วนทองสปอตอยู่ที่ 1,894 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ อัตราแลกเปลี่ยน 31.75 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยราคาทองคำวันนี้ปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท หากเทียบกับราคาทองคำในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นรวม 450 บาท

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (วายแอลจี) เปิดเผยว่า ภาพรวมราคาทองคำ ขณะนี้ปรับราคาขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่ราคาทองคำสปอตจะปรับขึ้นทดสอบ 1,920 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,700-28,800 บาท ซึ่งมองว่าหากราคาทองสปอตผ่าน 1,900 เหรียญสหรัฐ ได้ ก็จะมีโอกาสเห็นทะลุ 29,000 บาท แต่จะเห็นราคาทองคำไทยพุ่งหลุด 30,000 บาทหรือไม่ ประเมินว่าช่องว่างราคามีความไกลอยู่ แต่หากปัจจัยเสี่ยงในปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หรือมีความเสี่ยงที่จะแย่ลงกว่าเดิม ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน ที่จะมีความกังวลมากขึ้นจนเพิ่มความกดดันให้กับตลาดหรือไม่ รวมถึงยังมีปัจจัยเฉพาะเรื่องค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้ซื้อทองคำได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิมด้วย แนวโน้มจึงมองว่าทองคำยังมีทิศทางที่เป็นบวก แต่เนื่องจากราคาปรับขึ้นมามากแล้ว ในระยะสั้นอาจเห็นแรงขายออก เพื่อทำกำไร ซึ่งจะทำให้ราคาทองปรับลดลงบ้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ได้ลดลงมากนัก

นางสาวฐิภากล่าวว่า หากประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน เทียบกับปี 2551 ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต้มยำกุ้งขึ้นนั้น ภาพแตกต่างกันมาก เพราะปี 2551 ผลกระทบเกิดขึ้นกับสถาบันการเงินอย่างรุนแรงเท่านั้น แต่ปัจจัยตอนนี้ การเกิดระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงในทุกภาคส่วน ทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ สถาบันการเงิน และประชาชน ทำให้หากโควิด-19 ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง และยังไม่ค้นพบวัคซีนต้านไวรัส ก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สนับสนุนให้ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการอัดฉีดสภาพคล่องของยุโรป และหลายประเทศมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินออกมา รวมถึงจีดีพีที่ยังติดลบอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะใช้เวลาในการฟื้นกลับมาเป็นบวกสักระยะ ซึ่งการสะท้อนความกังวลในหลายปัจจัยนี้ นักลงทุนก็จะนำเงินไปเก็บไว้ในทองคำ ที่มีความปลอดภัยแทนสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ อาทิ หุ้น อสังหาริมทรัพย์

“ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ราคาทองคำปรับขึ้นมากว่า 30% หรือประมาณ 7,000 บาท ซึ่งเฉพาะต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ขึ้นมาแล้วกว่า 2,500 บาท ทำให้ราคาทองคำในปัจจุบันมีราคาแพงแล้ว การลงทุนในช่วงนี้จึงต้องมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะแม้ทิศทางยังมีโอกาสขึ้นได้ต่อ แต่อยากให้รอราคาปรับลดลง แล้วจึงทยอยลงทุนมากกว่า” นางสาวฐิภากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image