“Konvy” ทุบสถิติยอดขายโต 100% งัดกลยุทธ์การเป็นวันสต็อปช้อปปิ้งแพลตฟอร์ม

“Konvy” ทุบสถิติยอดขายโต 100% งัดกลยุทธ์การเป็นวันสต็อปช้อปปิ้งแพลตฟอร์ม

นายคิงกุ้ย หวง หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการ คอนวี่ดอทคอม (Konvy.com) อีคอมเมิร์ซด้านผลิตภัณฑ์ความงามอันดับ 1 ของไทย เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจและหันมาให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจทางออนไลน์มากขึ้น ต่างจากในอดีตที่หลาย ๆ ธุรกิจมองช่องทางออนไลน์เป็นเพียงช่องทางหนึ่งที่ลูกค้าสามารถซื้อของได้ ทว่าจริง ๆ แล้ว ช่องทางออนไลน์มีประโยชน์มากกว่านั้น จากประสบการณ์กว่า 15 ปี ที่คลุกคลีกับตลาดอีคอมเมิร์ซ ทำให้พอรู้ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่แบรนด์ต่าง ๆ ในตลาด จะหันมาลงทุนทำการตลาดออนไลน์กันมากขึ้น อีกทั้งแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลาย ๆ แบรนด์ ยังได้เทเม็ดเงินลงทุนจำนวนมากไปกับธุรกิจออนไลน์เป็นเวลาหลายปี โดยมีการโยกย้ายงบจากส่วนออฟไลน์มาสู่การตลาดออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรุกธุรกิจออนไลน์เต็มตัว เพราะทุกคนรู้ดีว่าออนไลน์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน ได้กลายเป็นช่องทางที่สามารถสื่อสารข้อมูลถึงผู้บริโภคได้โดยตรงกลุ่มและรวดเร็ว รวมถึงเป็นช่องทางที่แบรนด์สามารถศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคของตนเองได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของกลุ่มผู้ชายต่อเครื่องสำอาง แม้ในอดีตนั้น ผู้ชายอาจจะไม่สนใจเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แต่ปัจจุบัน เมื่อมีการใช้สื่อ Social Media มากขึ้น ก็สามารถปรับเปลี่ยนความคิดของพวกเขา ให้หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพผิวและความงามกันมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะสร้างกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อมหาศาล และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมความงาม

นายคิงกุ้ย หวง กล่าวว่า คอนวี่ มีบทบาทชัดเจนในการเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ชั้นนำ และมีบทบาทอย่างมากในด้านของผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งหากเปรียบเทียบกับอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ในตลาดออนไลน์ จะเห็นความแตกต่างระหว่างแพลตฟอร์มกับแบรนด์อย่างชัดเจน จุดแข็งของคอนวี่คือ ผู้ค้าปลีกออนไลน์ทุกราย ที่วางขายสินค้าในคอนวี่ ล้วนแล้วแต่เป็นพาร์ทเนอร์ ที่เราจะช่วยดูแล พร้อมสร้างกลยุทธ์การตลาด เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกลุ่ม และเติบโตไปด้วยกัน พร้อมทั้งช่วยพาร์ทเนอร์หาวิธีการทำการตลาดอย่างแยบยล ลดค่าใช้จ่ายและได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ขอยกตัวอย่างของกรณีแบรนด์ความงามที่อยู่ในแพลตฟอร์มของคอนวี่ ได้เปิดตัวสินค้าและวางจำหน่ายไซส์มินิ โดยให้ราคาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่คอนวี่ พร้อมปิดการขายในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นจำนวน 30,000 ชิ้น ให้กับลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ของแบรนด์อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากเราใช้วิธีการแบบเก่า เช่น การแจกสินค้าตัวอย่างในสถานีรถไฟฟ้า ผู้แจกแต่ละคนสามารถแจกได้ 500 ชิ้นต่อวัน จะต้องใช้กำลังคนถึง 60 คน เพื่อที่จะให้สินค้าถึงมือผู้บริโภค 30,000 ชิ้น รวมถึงแบรนด์จะต้องเสียเงินเช่าพื้นที่ในสถานีอีกด้วย ทั้งนี้ยังไม่สามารถการันตีได้ว่า กลุ่มลูกค้าที่แจกไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จริง ๆ หรือไม่ สมมติว่าอัตราความแม่นยำมี 5% หมายถึงแบรนด์จะต้องสูญเสีย 95% ของตัวอย่างที่แจก แสดงให้เห็นว่าแบรนด์จะต้องแจกสินค้าทั้งหมดมากกว่า 600,000 ชิ้น เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับแคมเปญในคอนวี่ ทั้งยังต้องจ่ายต้นทุนเป็นจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัว

“จุดแข็งที่ทำให้คอนวี่กลายเป็นผู้นำอีคอมเมิร์ซด้านเครื่องสำอางก็คือ การที่คอนวี่สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้แบรนด์ต่าง ๆ ที่เลือกใช้แพลตฟอร์มของคอนวี่ ซึ่งสามารถสร้างข้อได้เปรียบทั้งในการสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ รวมถึงแบรนด์ความงามใหม่ ๆ จะสามารถเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ได้ง่ายขึ้นหากร่วมกับเรา ซึ่งทางคอนวี่จะแนะนำการวางจุดยืนของแบรนด์ และจุดขายของแบรนด์ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ มาปรับใช้กับแบรนด์ความงามใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้การเปิดตัวแบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่จะตามมาอย่างมหาศาล”นายคิงกุ้ย หวงกล่าว

นายคิงกุ้ย หวง กล่าวว่า สำหรับคอนวี่ที่มีอายุครบ 8 ปี ในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทได้เริ่มมองหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยการวางตำแหน่งของตัวเองให้มากกว่าการเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ โดยคอนวี่ได้เริ่มคิดค้น วิจัย และพัฒนาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ ที่มีสินค้าคุณภาพได้มีโอกาสกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ และในตอนนี้ บริษัทยังได้เปิดฟังก์ชันใหม่ บริการดีลสุขภาพและความงาม ภายใต้ชื่อ คอนวี่ บิวตี้ดีล อีกด้วย โดยมีแนวคิดมาจากจุดเด่นของความงามที่มีอยู่ในทุกที่ทุกเวลา แน่นอนว่าลูกค้าจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างคุณค่าให้ตัวเอง ซึ่งการขยายข้อมูลไปยังภาคบริการเหล่านี้ จะช่วยให้คอนวี่เป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวเลือกที่ลูกค้าสามารถทำได้ทั้งซื้อผลิตภัณฑ์และบริการได้ทุกอย่างในที่เดียว ปัจจุบัน คอนวี่ มีลูกค้ามากกว่าล้านราย จัดอยู่ในกลุ่ม B+ ขึ้นไป อายุ 18-34 ปี รายได้ค่อนข้างดี มีกำลังซื้อสูง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัดในสัดส่วนที่พอ ๆ กัน มีการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมากกว่าทางเว็บไซต์เท่าตัว ตามไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2563 ที่เป็นวิกฤติการณ์โควิด-19 ทำให้ตลาดชอปปิงออนไลน์โตขึ้นเป็นอย่างมาก โดย คอนวี่ ก็มีอัตราการเติบโตมากกว่า 100 %

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image