‘ททท.’ ประเมินท่องเที่ยวข้ามไปปี 64 ยกกรณีเลวร้ายสุด รายได้หดเหลือ 6.75 แสนล้านบาท

‘ททท.’ ประเมินท่องเที่ยวข้ามไปปี 64 ยกกรณีเลวร้ายสุด รายได้หดเหลือ 6.75 แสนล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ล่าสุดททท.ได้จัดทำคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวปี 2564 ไว้ภายใต้สมมติฐาน 3 กรณี ได้แก่ 1.กรณีสถานการณ์เลวร้ายสุดจะมีรายได้เหลือเพียง 675,700 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์ดีที่สุดจะมีรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท มีรายละเอียด คือ 1.สถานการณ์การฟื้นตัวเร็ว ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2564 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.52 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 977,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20.5 ล้าน มาจากตลาดระยะใกล้ในเอเชียและอาเซียนเป็นหลัก มีการกลับมาของตลาดยุโรปอย่างชัดเจน และมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีกลับมาประมาณ 50% ขณะที่ประเทศไทยจะต้องไม่มีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น โดยจะมีนักท่องเที่ยวคนไทย 89.24 ล้านคน-ครั้ง คาดว่าจะสร้างรายได้ 548,341 ล้านบาท ภายใต้การมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงสิทธิประโยชน์เที่ยวในประเทศได้มากกว่าเที่ยวต่างประเทศ

“ปัจจัยอุปสรรคในการกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 2564 มีหลายปัจจัย ตั้งแต่ความไม่แน่นอนของโควิด-19 ภาวะเศรษฐกิจโลกปี 2564 ที่อาจฟื้นตัวได้แต่ไม่เต็มที่ สถานการณ์ธุรกิจการบินประสบปัญหาขาดทุนเสี่ยงต่อการล้มละลาย และทัศนคติชาวไทยต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นลบ ขณะที่ปัจจัยบวกมีภาพลักษณ์ที่ดีด้านสาธารณสุขมาตรฐานตราสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัยด้านท่องเที่ยวเอสเอชเอ และสาธารณสุขของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลกและเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชีย รวมถึงมีภาพลักษณ์การควบคุมเชื้อที่ดี เป็นประเทศที่รับมือกับโรคระบาดและฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีติดอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ของเอเชียต่อไป” นายยุทธศักดิ์กล่าว

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่ 2 เป็นฟื้นตัวระดับปานกลางหรือช่วงไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน)ของปี 2564 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.1 ล้านล้านบาท เริ่มเปิดให้เที่ยวบินพาณิชย์เข้าไทยในไตรมาส 3 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12.5 ล้านคน สร้างรายได้ 617,500 ล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยคาดมีจำนวน 84.92 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 491,000 ล้านบาท โดยต่างชาติจะมาจากตลาดระยะใกล้เป็นหลัก เสริมด้วยการกลับมาของตลาดยุโรปบางส่วนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนในเดือน ก.ค.-ส.ค. และตลาดยุโรปจะฟื้นกลับมาชัดเจนช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีประมาณ 30% ที่สำคัญจะต้องไม่พบการติดเชื้อในประเทศและมีการขยายตัวของผลิตภัณมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 5% แต่ยังไม่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยดัชนีผู้บริโภคยังติดลบอยู่ที่ 3%

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า กรณีที่ 3 หากสถานการณ์ไม่ฟื้นตัวหรือฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม)ของปี 2564 เริ่มเปิดให้เที่ยวบินพาณิชย์เข้าไทย บนสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกไม่สามารถควบคุมได้ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จะส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเหลือเพียง 675,700-754,800 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 296,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.14 ล้านคน จากตลาดระยะใกล้เป็นหลัก โดยคาดว่าจะมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีกลับมา 15% ขณะที่ในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 กรณี โดยกรณีที่ 1 มีการล็อกดาวน์ในบางจังหวัดท่องเที่ยวหลัก หรือเมืองรองที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เศรษฐกิจภาพรวมในไตรมาส 2 ติดลบ 3% เทียบกับปี 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย 76.20 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 458,800 ล้านบาท  ส่วนกรณี 2 ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ และเศรษฐกิจปี 2564 ติดลบ 8% เทียบกับปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยประมาณ 68.40 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 379,700 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image