‘คลัง’ ยันเช็กยิบโรงแรม ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ยอดจองที่พัก”ชลบุรี-ประจวบ”มากสุด

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวปันสุข ในส่วนของแพคเกจเราเที่ยวด้วยกัน ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 4.76 ล้านราย ลงทะเบียนสำเร็จ 4.51 ล้านราย โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมสนใจเข้าร่วมโครงการ จำนวน 6,815 แห่ง กระจายตัวอยู่ทั่วทุกจังหวัดในประเทศ ส่วนการจองโรงแรมที่เปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จเข้าไปใช้สิทธิจองที่พัก เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว นับตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ เข้าไปใช้สิทธิจองโรงแรมแล้ว 386,469 สิทธิ จากจำนวนสิทธิที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ล้านสิทธิ และมีการจองแล้วชำระเงินให้โรงแรมกว่า 373,214 ห้อง ส่วนนี้แบ่งเป็นผู้ลงทะเบียนที่เข้าใช้บริการโรงแรมที่จองไว้ ทำการเช็กอินแล้วกว่า 85,326 ห้อง และมีเช็กเอาท์แล้ว 79,884 ห้อง จากการสำรวจพบว่ามีประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีมากที่สุด 14,338 ห้อง รองลงมาคือประจวบคีรีขันธ์ 6,497 ห้อง กรุงเทพฯ 5,261 ห้อง เชียงใหม่ 5,258 ห้อง และกระบี่ 4,626 ห้อง

นายลวรณกล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ประกอบการเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรมนั้น กระทรวงการคลังได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตรวจดูพฤติกรรมของผู้ประกอบการโรงแรม พบว่ามีผู้ประกอบการที่พักขนาดเล็ก 1 แห่ง มีพฤติกรรมต้องสงสัยอาจเข้าข่ายทุจริตในการเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่พักดังกล่าวมีพฤติกรรมรับจองห้องพักเกินกว่าจำนวนห้องพักที่มีอยู่จริง และมียอดการจองห้องพักเต็มอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งผู้เข้าพักมีประวัติการใช้อีวอเชอร์สำหรับการซื้ออาหารในที่พัก ทั้งที่โรงแรมดังกล่าวไม่มีห้องอาหารไว้ให้บริการแก่ผู้เข้าพัก ขณะนี้ได้ระงับการจ่ายเงินสนับสนุนค่าที่พักในสัดส่วน 40% ของราคาที่พัก และอีวอเชอร์แล้ว ในระยะถัดจากนี้ หากพบว่ายังทำพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ จะพิจารณาตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันต่อไป ในส่วนของการตรวจสอบผู้ประกอบการในระบบ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติเพิ่มเติม

“คลังกับธนาคารกรุงไทยตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ประกอบการอยู่ตลอดเวลา จึงยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้มีการฉวยโอกาสของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงอยากให้ทั้งผู้ลงทะเบียนและผู้ประกอบการเป็นส่วนสนับสนุนในการสร้างบรรยากาศที่ดีให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่วนแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยวที่จะมีเพิ่มเติมออกมานั้น เบื้องต้นเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนออกมาในเร็วๆ นี้” นายลวรณกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image