‘ดีโอดี’ โชว์งบกำไรไตรมาส 2 ปี’63 โต 354% สวนกระแสโควิด

‘ดีโอดี’ โชว์งบกำไรไตรมาส 2 ปี’63 โต 354% สวนกระแสโควิด

นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ดีโอดี เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 76 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 354% และ 329% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทฯมีรายได้จากการขาย 772 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 247 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 103 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 103 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 77% และ 75% ตามลำดับ เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“บริษัทฯสามารถเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 329% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เติบโต 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ การเติบโตเป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดเพราะมาตรฐานในการผลิตและคุณภาพของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายธนิน กล่าว
นายธนิน กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพส่งสัญญาณการเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เป็นตัวเเปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตสำอางยังได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้ากลุ่มสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครือข่ายก็มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้ขาดทุนลดลงเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา
สำหรับ แนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่มีศักยภาพมีออเดอร์ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดไลน์การผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอก และผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องได้ใช้อัตราการผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เดินหน้าขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบซอฟท์เจล และผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2563 เป็นส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้พร้อมจะรับกับคำสั่งซื้อที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนธุรกิจเครือข่าย เริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image