‘กสทช.’ ลุยปรับโครงข่ายดิจิทัลทีวี ทำจอดำ 8 ชม. ภาคใต้โดนก่อน
วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ที่สำนักงาน กสทช. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธาน กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยในงานแถลงแนวทางการปรับปรุงโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล เพื่อรองรับการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ ว่า หลังจากมีการประมูลคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่ใช้ในกิจการกระจายเสียงนำมาใช้ในกิจการโทรคมนาคมเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G นั้น จะส่งผลให้ตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลหรือดิจิทัลทีวี ซึ่งมีจำนวนผู้ชมคิดเป็น 45-50% ของจำนวนผู้รับชมโทรทัศน์ทั้งหมด ไม่สามารถรับชมได้ในบางพื้นที่ โดยประชาชนต้องทำการปรับจูนกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (เซ็ตท็อปบ็อกซ์) หรือดิจิทัลทีวีเพื่อให้ดิจิทัลทีวีกลับมารับชมได้อีกครั้ง
สำหรับพื้นที่ที่ประชาชนต้องทำการปรับจูนกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ แบ่งเป็น พื้นที่ภาคใต้เริ่มเดือนกันยายน 2563, พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและบริเวณใกล้เคียง เริ่มวันที่ 5 ตุลาคม 2563, พื้นที่ภาคเหนือเริ่มเดือนตุลาคม 2563, พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มเดือนพฤศจิกายน 2563 และพื้นที่ภาคกลางเริ่มเดือนธันวาคม 2563 แต่พื้นที่ภาคกลางในต่างจังหวัดสามารถปรับจูนสัญญาณได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ส่วนกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่ใกล้เคียง สามารถปรับจูนสัญญาณได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
พ.อ.นที กล่าวว่า ประชาชนสามารถปรับจูนสัญญาณดิจิทัลทีวีได้เองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งขั้นแรกต้องตรวจสอบก่อนว่าที่บ้านรับสัญญาณดิจิทัลทีวีหรือไม่ ซึ่งการรับสัญญาณดิจิทัลทีวีจะใช้เสาก้างปลาหรือหนวดกุ้งในการรับสัญญาณไม่ได้ใช้จานรับสัญญาณสี จากนั้นทำการปรับจูน โดยมี 4 ขั้นตอนได้แก่ 1.กดเมนูบนรีโมท 2.เลือกคำว่าตั้งค่าหรือติดตั้ง 3.เลือกคำว่าค้นหาอัตโนมัติและ 4. เลือก OK หรือคำว่าค้นหา เมื่อสัญญาณกลับมาก็จะทำให้สามารถรับชมดิจิทัลทีวีได้อีกครั้ง
“การปรับเปลี่ยนคลื่นความถี่ครั้งนี้เพื่อให้ประเทศเข้าสู่เทคโนโลยี 5G อย่างสมบูรณ์ แต่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในบางพื้นที่ทำให้ไม่สามารถรับชมดิจิทัลทีวีได้เป็นเวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้นประชาชนจูนกล่องเซ็ตท็อปบ็อกซ์ ก็จะกลับมาดูทีวีได้เหมือนเดิมสัญญาณที่หายเป็นเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น” พ.อ.นที กล่าว