กรมชลฯบริหารจัดการน้ำภายใต้วิกฤตลุ่มน้ำประแสร์ ให้ทุกส่วนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำภายใต้ภาวะวิกฤตลุ่มน้ำประแสร์ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ โดยมี ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับและบรรยายสุปผลการดำเนินงาน ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาประแสร์ และโครงการก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราวคลองสะพาน – เติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง

นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำประแสร์ มีความจุอ่าง 295 ล้าน ลบ.ม. ทำการส่งน้ำให้กับด้านการเกษตรและสนับสนุนด้านการอุปโภคบริโภคในพื้นที่เป็นหลักปัจจุบัน (23 ส.ค.63) มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 92.65 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่าง คาดการณ์ปริมาณน้ำตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม 63 จะมีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้นประมาณ 248 ล้าน ลบ.ม.

กรมชลประทาน ได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน ด้วยการก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราวคลองสะพานมาเติมยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปัจจุบันต่อเชื่อมท่อลงอ่างประแสร์แล้วเสร็จ สามารถสูบน้ำได้ 170,000 ลบ.ม./วัน โดยเริ่มดำเนินการสูบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 จนถึงปัจจุบัน สูบน้ำได้ประมาณ 7.11 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่บริเวณขอบอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงสามารถใช้น้ำในอ่างฯ ในช่วงที่น้ำในอ่างฯมีระดับต่ำลงได้

นอกจากนี้ กรมชลประทาน ยังได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งระยะยาว ด้วยการดำเนินโครงการระบบสูบผันน้ำคลองสะพาน-อ่างเก็บน้ำประแสร์ ในพื้นที่ตำบลชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง โดยมีแนวท่อส่งน้ำระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าทำการสูบผันน้ำจากคลองสะพานไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ปีละกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. โครงการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำบ้านยางงาม ในพื้นที่ตำบลกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นก่อสร้างระบบส่งน้ำกระจายน้ำด้วยท่อเหล็กเหนียวระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร สามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้กว่า 5,000 ไร่ ทั้งยังเป็นการลดการศูนย์เสียน้ำในระหว่างการส่งน้ำอีกด้วย และโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำแก่งหวาย ในพื้นที่ตำบลชุมแสง อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อยกระดับน้ำในคลองสะพานให้สูงขึ้น เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำประแสร์ในการสนับสนุนน้ำตามความต้องการใช้น้ำของพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) สามารถทำการสูบน้ำได้ปีละกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. จากนั้นเดินทางต่อไปยังโครงการก่อสร้างระบบสูบกลับชั่วคราวคลองสะพาน – เติมอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการ

Advertisement

นายประพิศ กล่าวต่อว่า คลองสะพาน เป็นคลองธรรมชาติขนาดใหญ่มีต้นกำเนิดจากอำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ไหลผ่านพื้นที่อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง มีพื้นที่รับน้ำกว่า 244,000 ไร่ ความยาวคลองประมาณ 40 กิโลเมตร ปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 158.8 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ซึ่งดำเนอนการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างผู้ใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ อีสท์ วอเตอร์ ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 39 ของแผนการดำเนินงานทั้งโครงการ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2564 นี้

ทั้งนี้ดร.เฉลิมชัย ได้กล่าวในตอนท้ายว่า “รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดระยอง จึงสั่งการให้ กรมชลประทาน ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งจัดทำแผนพัฒนาอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำ ลดผลการทบจากการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเน้นย้ำให้กรมชลประทานให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรเป็นหลัก เพราะหากการเกษตรเข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะมั่นคง พร้อมกับขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เห็นใจซึ่งกันและกันจนทำให้ผ่านผลวิกฤติในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image