โควิด-19 ทุบธุรกิจการบิน ประเมินกลับมาโตดีเท่าเดิม กลาง-ปลายปี 64

โควิด-19 ทุบธุรกิจการบิน ประเมินกลับมาโตดีเท่าเดิม กลาง-ปลายปี 64

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการปรับตัวของ บจ. มีทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์ และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมองว่าไม่ควรปล่อยให้เสียโอกาส เพราะแม้จะมีโรคระบาดเกิดขึ้น แต่ก็จะตามาด้วยหลายเทรนด์ที่สามารถใช้ในการปรับตัวได้ อาทิ การรีวิวธุรกิจ การปรับตัวทำงานผ่านระบบออนไลน์ หรือใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กเดต้า) โดยมองว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างกลุ่มการบิน ประเมินว่าจะกลับมาดีที่สุดอีกครั้งในช่วงกลางปีถึงปลายปี 2564 แต่บางส่วนก็มองว่า แม้จะเกิดการฟื้นตัวก็ต้องมีการปรับตัวใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุคหลังโควิด-19 อาทิ เน้นย้ำไปที่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มากกว่าการเน้นปริมาณเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงการทำพาร์ทเนอร์ หรือจับคู่หูทางธุรกิจระหว่างอุตสาหกรรม

“สิ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มโลจิสติกส์ ที่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่ธุรกิจ (ซัพพลายเชน) ผ่านการเปิดรับซัพพลายเชนจากจีนเข้ามาในประเทศมากขึ้น รวมถึงปรับกระบวนการดิจิทัล โดยมองว่าวิกฤตครั้งนี้อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นกลับมาดีอีกครั้ง ทำให้การบริหารสภาพคล่อง และต้นทุนต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ โดย บจ.ไทยแม้รายได้ลดลง แต่มีการปรับตัวทางการเงินเยอะมาก เพราะแม้ยอดขายจะลดลง และกำไรลดลงก็จริง แต่อัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) และการดำเนินงาน สามารถรักษาระดับไว้ใกล้เคียงเดิมได้ (ยกเว้นน้ำมัน) แต่หากตัดน้ำมันออกไปพบว่าอัตรากำไรยังทรงตัว สะท้อนว่ามีการปรับค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายศรพล กล่าว

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

นายศรพล กล่าวว่า การจัดงานเสวนาไทยแลนด์โฟกัส 2020 ในครั้งนี้ พบว่าในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ จัดการจัดประชุมร่วมกับนักลงทุนสถาบัน และบริษัทจดทะเบียนอีก 53 รายแบบส่วนตัว ในกลุ่มการบริโภค การแพทย์ ท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และธนาคาร ทำเป็นดิจิทัล 100% โดยการจัดสัมมนาแบบดิจิทัล สามารถรองรับคนได้มากขึ้น เป็น 8,000-9,000 ราย จากปกติ 1,000 ราย เวลาจัดในสถานที่ของโรงแรม ซึ่งในส่วนของบริษัทจดทะเบียนมีถ่ายทอดทั้งจากศูนย์กลางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และถ่ายทอดจากบริษัทตนเอง แต่ยังต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนร่วมหลังจัดงานอีกครั้ง นอกจากนี้ จากข้อมูลพบว่า นักลงทุนสถาบันมีทั้งหมด 193 ราย ต่างประเทศ 88 ราย ในประเทศ 105 ราย ส่วนรายย่อย 62 รายมาจากต่างประเทศ และอีก 33 รายในประเทศ โดยเฉพาะฮ่องกงและสิงคโปร์ โดยพบว่า 20% เป็นกลุ่มนักลงทุนใหม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image