นายชวาลา วงศ์ใหญ่ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายส่งเสริมการเกษตร บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร จัดทำโครงการพัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่งภายในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า มีเป้าหมายเพิ่มอัตราการใช้หัวพันธุ์มันฝรั่งในไทยและลดนำเข้าลงกว่า 50 % จึงจะช่วยลดต้นทุนการผลิตลงจาก 35 บาท/กิโลกรัม เหลือ 25 – 26 บาท/กิโลกรัม รวมทั้งเป็นแนวทางเพิ่มผลผลิตต่อไร่จาก 2 – 3 ตัน/ไร่ เป็น 5 ตัน/ไร่ในปี 2564 หรือ 5 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มความมั่นคงระบบการผลิตของบริษัทในระยะยาว รองรับแผนของบริษัทจะใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตขนมขบเคี้ยวเพื่อส่งออกไปอาเซียน
ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการเพาะปลูกมันฝรั่งอย่างยั่งยืน ภายใต้สัญญาข้อตกลงการผลิตที่มีการประกันราคารับซื้ออย่างแน่นอน โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 6,000 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 28,000 ไร่ ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสอดรับกับร่างยุทธศาสตร์มันฝรั่งของคณะอนุกรรมการบริหารการผลิตกลุ่มสินค้าพืชหัว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีเป้าหมายขยายการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพผลผลิต ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจมันฝรั่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ได้ส่งเสริมการปลูกมันฝรั่งพันธุ์โรงงานในพื้นที่เหมาะสม 16 จังหวัด ประมาณ 67,000 ไร่ เพื่อทดแทนพื้นที่ปลูกพืชชนิดอื่น อาทิ กระเทียม หอมแดง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
นายสนอง จรินทร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หัวพันธุ์มันฝรั่ง ถือเป็นต้นทุนหลักในการเพาะปลูก มีสัดส่วน40%ของต้นทุนรวม ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีปริมาณการนำเข้าหัวพันธุ์มันฝรั่งพันธุ์โรงงาน เฉลี่ยกว่า 4,700 ตันต่อปี กรมฯจึงได้ร่วมมือกับเป๊บซี่ พัฒนาหัวพันธุ์มันฝรั่ง รุ่นจี 0 และต่อยอดถึงรุ่นจี3 ทำให้ต้นทุนการผลิตเหลือกิโลกรัมละ 25 – 26 บาท จากเดิม 35 บาท
