“สุริยะ” หวังถกอัครายุติก่อนอนุญาโตฯ เคาะ สะพัดคิงส์เกตร่วมทุนไทยเปิดเหมืองอีก
วันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ กรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ฟ้องร้องรัฐบาลไทยกรณีสั่งระงับการประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี ต้องระงับการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 2560 ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการ กระทรวงอุตสาหกรรมยังคาดหวังจะใช้แนวทางเจรจาหาข้อยุติก่อนศาลอนุญาโตฯ จะมีคำตัดสินออกมา โดยกำชับให้คณะทำงานเจรจาทำทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบมากที่สุด
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการไต่สวนของคณะอนุญาโตฯ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดได้ ยืนยันว่าคณะทำงานเจรจาฯ ประกอบด้วยหลายฝ่าย อาทิ ทีมผู้บริหารกระทรวงอุตฯ อดีตผู้บริหารกระทรวงอุตฯ ทีมทนายความ และผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างชาติกว่า 20 คน ทำทุกอย่างเต็มที่ ด้วยความรอบคอบ รัดกุม คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารงบประมาณปี 2564 มีบางส่วนระบุเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการระงับข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทย กับ บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรีประมาณ 111 ล้านบาทนั้น เป็นงบประมาณที่ต้องใช้ดำเนินงานในการเข้าสู่กระบวนอนุญาโตฯ ทางกระทรวงอุตฯ ได้ขออนุมัติดำเนินงานไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ผู้บริหารเหมืองแร่อัคราฯ สนใจกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง อาจอยู่ในรูปแบบลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการคนไทย หรือลงทุนเองต่อไป ต้องติดตามต่อไปว่า เรื่องนี้จะมีบทสรุปอย่างไร ตามขั้นตอนแล้ว หากผู้ประกอบการเหมืองแร่รายใดก็ตามสนใจเข้ามายื่นขอประกอบกิจการเหมืองแร่ สามารถดำเนินการได้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แร่ฉบับใหม่ จะเข้มงวดในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถ้าได้รับอนุญาตก็สามารถประกอบกิจการต่อไปได้
