ดีอีเอส นำร่องฟรีไวไฟชุมชนเมือง 10 จุด คาดใช้ได้ ต.ค.นี้

ดีอีเอส นำร่องฟรีไวไฟชุมชนเมือง 10 จุด คาดใช้ได้ ต.ค.นี้

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนชุมชนและประชาชนทุกพื้นที่ให้มีโอกาสใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เข้าถึงบริการภาครัฐ และใช้ประโยชน์ในกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และปรับวิถีการใช้ชีวิตแบบปกติใหม่ (นิวนอร์มอล) ตลอดจนเป็นการต่อยอดโครงข่ายอินเตอร์เน็ตสาธารณะของประเทศ ล่าสุดมอบหมายให้ บริษัท​ ก​สท​ โทรคมนาคม​ จำกัด (มหาชน)​ หรือแคท ทำโครงการนำร่องขยายจุดให้บริการฟรีไวไฟในชุมชนเมือง ด้วยความเร็วดาวน์โหลด/อัพโหลด 100/100 เมกะบิต จำนวน 10 แห่ง ภายในเดือนกันยายนนี้ และเปิดให้ใช้งานในเดือนตุลาคม​ 2563

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า จะกำหนดระยะเวลาการใช้บริการสำหรับผู้ที่ล็อกอินเข้าใช้งานฟรีแต่ละครั้งไม่เกิน 30-45 นาที ถ้าจะใช้งานนานกว่านั้นต้องทำการล็อกอินใหม่ รวมทั้งจะมีการกำหนดให้ใช้รหัสผ่านในการเข้าใช้งาน เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้มีการเข้าถึงและใช้ออนไลน์อย่างเหมาะสม

สำหรับโครงการนี้จะต่างจากศูนย์ดิจิทัลชุมชน ในโครงการเน็ตประชารัฐเน้นไปที่พื้นที่ห่างไกล โดยมองเป้าหมายจุดติดตั้งในชุมชนเมือง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงบริการอินเตอร์เน็ต/ไวไฟ และคัดเลือกจากพื้นที่ โดยแคทมีโครงข่ายใยแก้วนำแสง (ไฟเบอร์ออฟติก) อยู่แล้ว เพื่อประหยัดต้นทุนการลากสาย เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นชุมชนเมืองในกรุงเทพฯ 5 จุด และในต่างจังหวัด 5 จุด

อย่างไรก็ตาม​ โครงการ​ดังกล่าว​ถือเป็นการนำร่องโครงการขยายจุดให้บริการฟรีไวไฟในชุมชนเมืองทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่เสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปก่อนหน้านี้ ทั้ง​นี้ เพื่อให้ทราบถึงแนวทางการให้บริการและเห็นโครงการ​ที่เป็นรูปธรรม

Advertisement

ขณะเดียวกัน​ ปีนี้เตรียมเพิ่มจำนวนศูนย์ดิจิทัลชุมชนให้ครอบคลุม 250 แห่งทั่วประเทศ โดยมีทั้งจุดเดิม และพื้นที่ใหม่ เน้นพื้นที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชน อาทิ วัด มัสยิด นอกเหนือจากการติดตั้งตามโรงเรียน หรือบ้านผู้นำชุมชนอย่างที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายหลัก ที่มุ่งสร้างศูนย์ดิจิทัลชุมชน ให้เยาวชนและคนทั่วไปเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ทุกวัน รวมทั้งเวลาหลักเลิกเรียน

“ตั้งงบประมาณในส่วนนี้ไว้กว่า 147 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้จะไม่มีการใช้เป็นงบก่อสร้างแน่นอน เนื่องจากเป็นพื้นที่ตั้งจะเน้นจุดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทุกคนเข้ามาใช้งานได้สะดวก โดยจะจัดเตรียมทั้งระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่ายไวไฟพร้อมใช้งาน มีเจ้าหน้าที่ดูแล รวมถึงมีการจัดอบรมให้ความรู้และการขายสินค้าออนไลน์ วิธีนำเสนอสินค้าบนออนไลน์ให้น่าสนใจ การตั้งราคาที่เหมาะสมกับตลาด เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบันที่การใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตของคนส่วนใหญ่ ขยายจากความบันเทิง เข้ามาสู่เรื่องการทำธุรกิจการค้าขายมากขึ้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในปีต่อไปก็มีเป้าหมายขยายเพิ่มต่อเนื่อง ศูนย์ดิจิทัลชุมชนเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้ทั้งเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ง่าย สามารถพัฒนาทักษะของตัวเอง เพราะวันนี้ทุกอย่างจำเป็นต้องพึ่งพาดิจิทัล และจากนี้ไปจะไม่ใช่แค่ห้องที่มีคอมพิวเตอร์วางอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการเรียนรู้ ต่อยอดทำมาหากิน โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และมีหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงดีอีเอสมาสนับสนุนอย่างเต็มที่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image