อินฟราฟัน : ขยายสนามบินกระบี่รับโบอิ้ง40ลำ โดย นายขันตี

อินฟราฟัน : ขยายสนามบินกระบี่รับโบอิ้ง40ลำ โดย นายขันตี

อินฟราฟัน : ขยายสนามบินกระบี่รับโบอิ้ง40ลำ โดย นายขันตี

การขยายขีดความสามารถสนามบินเพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ ถึงแม้การเดินทางของผู้คนในตอนนี้จะยังมีไม่มากเหมือนแต่ก่อนแล้วก็ตาม แต่หากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง หรือมีวัคซีนป้องกันโรคออกมาเมื่อไหร่ การเดินทางทางอากาศก็จะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม หรือมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

ปัจจุบัน ท่าอากาศยานกระบี่ เปิดให้บริการเส้นทางการบินภายในประเทศ จำนวน 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยสมายล์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินเวียตเจ็ท มีจำนวนเที่ยวบินประมาณ 20 เที่ยวบิน (ไป-กลับ) ในเส้นทางกรุงเทพฯ-กระบี่-กรุงเทพฯ และเชียงใหม่-กระบี่-เชียงใหม่ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว

ที่ผ่านมาท่าอากาศยานกระบี่ ซึ่งบริหารจัดการโดย กรมท่าอากาศยาน หรือ ทย. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 พร้อมปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1 และ 2 พร้อมอาคารจอดรถยนต์ ในกรอบวงเงิน 2,923,400,000 บาท ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท คริสเตียนีและนีสเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มต้นสัญญาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2561 คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2565

Advertisement

เมื่อแล้วเสร็จจะมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารจากปัจจุบัน 1,500 คนต่อชั่วโมง เพิ่มเป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง หรือจาก 4 ล้านคนต่อปี เพิ่มเป็น 8 ล้านคนต่อปี ขณะที่อาคารจอดรถยนต์จะสามารถรองรับได้ 2,000 คัน โดยจัดให้มีที่จอดรถสำหรับคนพิการไว้ให้ด้วย ขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้ว 29.63%

นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน ในกรอบวงเงิน 863,000,000 บาท ก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้า ที.พี.พี.ซี. คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 เมื่อแล้วเสร็จสามารถรองรับอากาศยาน โบอิ้ง 737 จากเดิม 10 ลำ เป็น 40 ลำ ในเวลาเดียวกัน โดยมีความก้าวหน้าของงานก่อสร้างแล้ว 91.68%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังระบาดอยู่ ท่าอากาศยานกระบี่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้ออย่างเคร่งครัด แบบนิว นอร์มอล มีมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย รวมถึงการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลผู้โดยสารในแต่ละจุดอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งกำชับให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัย การตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก เป็นต้น

Advertisement

เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็เชื่อมั่นว่าที่ขยายขีดความสามารถในครั้งนี้ จะคุ้มค่าแน่นอน!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image