กอช. จับมือ สสว. กระตุ้นออมเงินเพิ่ม สร้างเงินบำนาญให้แรงงานนอกระบบ ตั้งเป้าทั้งปีสมาชิกแตะ 2.5 ล้านคน

กอช. จับมือ สสว. กระตุ้นออมเงินเพิ่ม สร้างเงินบำนาญให้แรงงานนอกระบบ ตั้งเป้าทั้งปีสมาชิกแตะ 2.5 ล้านคน

นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อร่วมมือกันในการสนับสนุนสร้างหลักประกันบำนาญให้แก่ประชาชน ที่เป็นแรงงานนอกระบบ โดยตั้งเป้าหมายของการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะส่งผลให้ในปี 2563 มีสมาชิกกอช.เพิ่มขึ้นถึง 2.5 ล้านคน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.4 ล้านคน และส่งผลให้มีเงินฝากทั้งปีรวม 8.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 อยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท ส่วนผลการตอบแทนจากต้นปีจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 1.3%

นางสาวจารุลักษณ์ กล่าวว่า การร่วมมือกับสสว. ถือเป็นภารกิจสำคัญในการผลักดันให้ประชาชนที่ไม่มีสวัสดิการจากรัฐบาล ได้เข้าถึงการออมมากขึ้น โดยผู้ที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปี เริ่มออมเงินได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี ทุกครั้งที่สมาชิกส่งเงินออมสะสม รัฐบาลจะเติมเงินสมทบให้ตามช่วงอายุ อาทิ อายุ 15-30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมสะสม สูงสุด 600 บาทต่อปี อายุ 30-50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมสะสม สูงสุด 960 บาทต่อปี อายุ 50-60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมสะสม สูงสุด 1,200 บาทต่อปี

“จากเดิมได้ตั้งเป้าสมาชิกเพิ่มขึ้น 3 ล้านคน ภายในปีนี้ แต่พอเกิดการระบาดโควิด-19 ขึ้น ส่งผลกระทบให้ประชาชนไม่มีเงินออม จึงปรับลดสมาชิกเข้าร่วมกองทุนในปีนี้ เหลือ 2.5 ล้านคน ซึ่งชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า เนื่องจากได้ร่วมมือกับสสว. โดยในระยะถัดไปจะร่วมมือกับธนาคารออมสิน จัดทำสมุดคู่เงินออม เพื่อรับประกัน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่สนใจออมเงินนี้ โดยจะจูงให้ประชาชาออมเงินเพิ่มขึ้น เพราะแม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สมาชิกของกอช. ก็ยังมีการออมเงินต่อเนื่องประมาณ 30% จากภาพรวม รวมถึงพบว่า มีสมาชิกหนุดออมและถอนเงินออกไปประมาณ 0.1% เนื่องจากอาจติดปัญหาสภาพคล่องในการใช้จ่าย” นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ขณะนี้ สสว. มีเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกอยู่กว่า 3 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าว มีเอสเอ็มอีนอกระบบที่เข้าเกณฑ์ออมเงินของกอช. ได้ประมาณ 7.9 หมื่นราย โดยคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะเริ่มเข้ามาออมเงินกับกอช. ได้ทันที ซึ่งกอช. จะเข้าไปให้ความรู้ผู้ประกอบการ ให้มีความเข้าใจการบริหารเงินทางธุรกิจ เพื่อมห้มีการวางแผนและบริหารจัดการเงินของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการใช้จ่าย การออมเงิน และการจัดการหนี้สิน ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินที่สำคัญ โดยความร่วมมือครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการรายย่อยที่ให้ความสำคัญ 3 กลุ่มหลักคือ กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก กอช. แต่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสมาชิกกับ สสว. กลุ่มที่ 2 คือ ผู้ที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิก สสว. แล้ว แต่ยังไม่ได้ออมเงินกับ กอช. และกลุ่มที่ 3 เป็นผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกทั้ง สสว. และ กอช.

Advertisement

นายวีระพงศ์ กล่าวว่า สสว. และ กอช. จะดำเนินกิจกรรมฝึกอบรมอาชีพให้แก่สมาชิกร่วมกัน โดยเน้นการฝึกอาชีพที่มีความต้องการของตลาดหรือพื้นที่ โดยได้คัดเลือกพื้นที่นำร่อง 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสงขลา ขอนแก่น และปทุมธานี เพื่อเป็นการต่อยอดให้สมาชิกสามารถมีธุรกิจการให้บริการได้ในพื้นที่เังกล่าว นอกจากนี้ ในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สสว. ยังมีโครงการต่างๆ ที่จะพัฒนาปัจจัยเอื้อต่อการเติบโตของกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กมากๆ ให้เติบโตได้ตามวงจรธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายที่ปรึกษาและผู้ประกอบการไปด้วยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image