‘ททท.’ ประเมินแรงงานภาคท่องเที่ยวยังตกงานหลอก หากไม่เปิดรับต่างชาติ มีตกงานถาวรเพิ่มแน่นอน

‘ททท.’ ประเมินแรงงานภาคท่องเที่ยวยังตกงานหลอก หากไม่เปิดรับต่างชาติ มีตกงานถาวรเพิ่มแน่นอน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในกรณีที่สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) มีการออกมาเปิดเผยว่า แรงงานในภาคการท่องเที่ยว ส่วนของโรงแรมตกงานแล้วร่วมกว่า 1,000,000 คนนั้น เบื้องต้นมองว่า อาจไม่ได้เป็นการตกงานทั้งหมด แต่มีหลายกรณีรวมกัน ได้แก่ การพักงาน หยุดทำงานเป็นช่วง หรือการทำงานเป็นช่วงเวลาสลับกัน อาทิ ทำ 15 วัน หยุด 15 วัน และการทำงานที่บ้านเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากโรงแรมในภาพรวมยังไม่ได้กลับมาเปิดทั้งหมด เมื่อยังไม่กลับมาเปิดทั้งหมด การจ้างแรงงานก็ยังไม่ได้กลับมาเป็นปกติ ทำให้พนักงานเหล่านี้ที่ไม่ได้ทำงาน บางส่วนก็กลับไปยังภูมิลำเนา หรือหยุดพักทำงานชั่วคราวตามที่ได้ตกลงกับผู้ประกอบการไว้ เพื่อรอความชัดเจนว่า ผู้ประกอบการจะกลับมาทำธุรกิจตามปกติในช่วงใด โดยมองว่าการกลับมาเปิดโรงแรมตามปกติทั่วประเทศยังทำได้ยาก โดยเฉพาะโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก อาทิ จังหวัดภูเก็ต สมุย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ขณะเดียวกันตลาดไทยเที่ยวไทย ก็มีจำนวนไม่มากพอที่จะสามารถทดแทนตลาดต่างชาติที่หายไปได้ ทำให้มีแรงงานบางส่วนที่ต้องตกงานชั่วคราวบ้าง แต่มองว่าต้องประเมินเป็น 2 ระยะ เนื่องจากในระยะสั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังพยายามพยุงการจ้างงานไว้ แต่ในระยะยาวหากยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา โอกาสที่จะเห็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยตกงานอย่างถาวรก็จะมีมากขึ้น

”ส่วนข้อเรียกร้องเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสภาพคล่อง โดยเฉพาะการหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ที่ยังมีข้อจำกัด และมีเงื่อนไขในการเข้าถึงยาก ทำให้เอกชนที่เข้าถึงซอฟท์โลนมีจำนวนไม่มากนัก ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือในด้านซอฟท์โลนออกมาหลายโครงการ และเพิ่มในส่วนของการให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามารับประกันความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยได้มีการหารือกันในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 หรือ ศบศ. อยู่แล้ว ซึ่งต้องประเมินว่าจะมีผลในข้อปฏิบัติออกมาช่วงใด” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับแนวคิดการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเบื้องต้นอยากให้รัฐบาลทดลองหรือนำร่องก่อนเนื่องจากความจริงแล้วการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้เป็นผลดีต่อบริษัทนี้ผลิตแค่ชนเท่านั้นแต่ธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งการสร้างความมั่นใจในความเชื่อมั่นรการต้องอยู่กับการแพทยระบาดโควิช-19 เค้ามองว่าไม่มีทางที่เชื้อโควิชจะหายไปในเร็วเร็วนี้ได้ซึ่งการปิดประเทศต่อไปก็ไม่สามารถทำได้เช่นกันจึงต้องหาทางทำให้สมดุลย์ระหว่างมาตรการทางสาธารณสุขและการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพทยระบาดโควิช-19

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือ การเสนอให้รัฐบาลเปิดรับต่างชาติเข้ามาทดลองก่อน ในจำนวนที่ไม่มาก และเข้ามาแบบจำกัดทั้งในด้านจำนวนและพื้นที่ในการอยู่อาศัย โดยต้องการเริ่มในระยะนำร่องให้ได้ก่อน หลังจากนั้นจะประเมินผลและเปิดในระยะขยายผล ซึ่งหากประเมินแล้วสามารถควบคุมได้และเป็นไปในทิศทางที่ดี ก็จะเปิดการท่องเที่ยวอย่างจำกัดอย่างเต็มตัว รวมถึงจะต้องพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยว่า สาธารณสุขไทยจะสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ โดยแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างที่นำกลับมาทบทวนนั้น ขณะนี้ได้จัดทำแผนฉบับปรับปรุงแล้ว แต่ยังติดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเภทการทำวีซ่าให้ต่างชาติที่จะเข้ามา ซึ่งหากจัดการเรียบร้อยแล้วจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป นอกจากนี้ จะสื่อสารเงื่อนไขไปยังกลุ่มเป้าหมายต่างชาติที่จะเปิดให้เข้ามาว่า หากไทยเปิดประเทศแล้ว ต้องการเข้ามาจะต้องทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ให้ครบทั้งหมดอย่างเข้มข้น เพื่อประเมินว่ามีความต้องการเข้ามามากน้อยอย่างไร และจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เพราะยังไม่มีความชัดเจนในเงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆ ของไทย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image