“อธิบดีอุตุฯ” สั่งตั้งวอร์รูมรับมือ พายุ “โนอึล” 24 ชม. เผยส่อรุนแรงเป็นไต้ฝุ่น
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 63 นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พายุ “ โนอึล” ซึ่งอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “พายุระดับ 5” หรือ “ไต้ฝุ่น” นั้น เพื่อความไม่ประมาททางกรมอุตุฯ ได้สั่งตั้งวอร์รูมรับมือ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ดีทิศทางขึ้น
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โนอึล” (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 18 – 20 กันยายน 2563)” ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 16 กันยายน 2563 |
||
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 กันยายน 2563) เป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โนอึล” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 13.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง และเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรงบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆจะมีผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย คาดว่าพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 18 กันยายน 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก Advertisement
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และร้อยเอ็ด ภาคตะวันออก: จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล วันที่ 19 กันยายน 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร และร้อยเอ็ด ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล วันที่ 20 กันยายน 2563 บริเวณที่มีฝนตกหนัก ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย และกำแพงเพชร ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี และชัยนาท ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็ก ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 17-20 กันยายน 2563
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.
(ลงชื่อ) นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ (สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
|