ลุ้นสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์ยักษ์ “ระบบราง” เปิดหรือเลื่อน
เริ่มนับถอยหลังที่จะเปิด “สถานีกลางบางซื่อ” กันแล้ว หลังงานก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ 100% เหลือเพียงการตกแต่งภายในให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการติดตั้งป้ายบอกทาง ห้องน้ำ และระบบไฟฟ้าภายในสถานี โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตั้งเป้าจะเปิดบริการปี 2564
สถานีกลางบางซื่อ เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้การก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26.3 กิโลเมตร (กม.) เริ่มตอกเสาเข็มตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2556
แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุง ประกอบด้วย งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสถานีกลางบางซื่อ และงานก่อสร้างสถานียกระดับ 1 สถานี ได้แก่ สถานีจตุจักร งานก่อสร้างทางวิ่งยกระดับและทางวิ่งระดับดิน ความยาวตามแนวก่อสร้าง 6.20 กม. งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟทางไกลและรถไฟชานเมือง งานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ และสะพานรถยนต์ รวมถึงระบบระบายน้ำ
สัญญาที่ 2 เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟช่วงบางซื่อ-รังสิต ประกอบด้วย งานก่อสร้างสถานียกระดับ 8 สถานีตามแนวเส้นทางรถไฟ งานก่อสร้างทางวิ่งยกระดับ และทางวิ่งระดับดิน ความยาวตามแนวก่อสร้าง 20.15 กม. งานก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ และสะพานรถยนต์ รวมถึงระบบระบายน้ำ
สัญญาที่ 3 เป็นงานติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15.26 กม. ประกอบด้วย งานก่อสร้างทางรถไฟ งานระบบไฟฟ้า งานระบบอาณัติสัญญาณ งานระบบสื่อสาร งานระบบการออกตั๋ว งานเครื่องจักรเครื่องมือสำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟ งานระบบควบคุมความปลอดภัยด้านการเดินรถ งานระบบประกาศและประชาสัมพันธ์ งานสถานีไฟฟ้าย่อย งานรื้อย้ายทางรถไฟและระบบอาณัติสัญญาณเดิม งานจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้า
ที่ผ่านมาโครงการนี้เลื่อนเปิดบริการมาหลายรอบ เริ่มจากเดิมตั้งเป้าหมายเปิดเดินรถในปี 2562 แต่ผ่านไปสักระยะการดำเนินงานไม่ตรงตามแผน จนคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายปี 2562 จึงเลื่อนเปิดบริการไปปี 2563 จากนั้นก็มีเป้าหมายใหม่เกิดขึ้นอีกเป็นเดือนมกราคม 2564 และกลางปี 2564 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน 100% ว่าจะเปิดให้บริการได้เดือนไหน
อย่างไรก็ตาม หากเดินหน้าจนเปิดบริการได้แล้ว สถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางแห่งใหม่ของประเทศไทย และเป็นสถานีกลางที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาวของสถานีอยู่ที่ 596.6 เมตร ความกว้าง 244 เมตร ความสูง 43 เมตร พื้นที่ใช้สอยรวม 274,192 ตารางเมตร(ตร.ม.)
เป็นอาคารสูง 4 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน พื้นที่รวม 72,542 ตร.ม. ซึ่งเป็นพื้นที่ไว้สำหรับจอดรถประมาณ 1,700 คัน
สำหรับพื้นที่จอดรถยนต์ดังกล่าวจะแบ่งเป็นพื้นที่รถยนต์ทั่วไป 1,624 คัน และรถแท็ก 262 คัน คาดว่าหากเปิดบริการได้ในปี 2564 จะมีรถส่วนบุคคล 2,656 คัน/วัน รถจักรยานยนต์ 781 คัน/วัน และในปี 2569 รถส่วนบุคคลจะเพิ่มเป็น 9,751 คัน/วัน รถจักรยานยนต์ 2,868 คัน/วัน
ส่วนอัตราค่าบริการจอดรถส่วนบุคคล 30 นาทีแรก ไม่คิดค่าบริการ ชั่วโมงที่ 1-14 คิด 20 บาท/ชั่วโมง และชั่วโมงที่ 15-24 คิด 300 บาท ส่วนจักรยานยนต์ 30 นาทีแรกฟรี ชั่วโมงที่ 1-14 คิด 10 บาท/ชั่วโมง ชั่วโมง 15-24 คิด 150 บาท นอกจากนี้ ในปี 2574 จะมีการปรับค่าจอดรถส่วนบุคคลเป็น 25 บาท/ชั่วโมง และปี 2584 เพิ่มเป็น 30 บาท/ชั่วโมง
ส่วนชั้นที่ 1 พื้นที่รวม 86,700 ตร.ม. เป็นพื้นที่ในการจำหน่ายตั๋ว ศูนย์อาหาร สำนักงาน และร้านค้า รวมถึงพื้นที่พักคอยผู้โดยสาร ห้องน้ำ และจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีสายสีน้ำเงิน
ชั้นที่ 2 พื้นที่รวม 42,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่ชานชาลารองรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง จำนวน 4 ชานชาลา และรถไฟทางไกล จำนวน 8 ชานชาลา
ชั้นที่ 3 พื้นที่รวม 42,300 ตร.ม. เป็นชานชาลารองรับรถไฟความเร็วสูง จำนวน 10 ชานชาลา ประกอบด้วยรถไฟความเร็วสูงสายอีสาน สายเหนือ สายใต้ และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไปถึงอู่ตะเภา และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จำนวน 2 ชานชาลา
ในปีแรกที่เปิดบริการ รฟท.คาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 208,000 เที่ยวคนต่อวัน และเพิ่มเป็น 396,000 เที่ยวคนต่อวันในปี 2575 พร้อมกันนี้จะค่อยๆ ลดบทบาทสถานีกรุงเทพหรือสถานีหัวลำโพงลง เพื่อเปลี่ยนมาใช้สถานีกลางบางซื่อแทน จากที่เดินรถดีเซลรางวันละ 130 เที่ยว จะเหลือ 30-40 เที่ยวในอนาคต
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดึงผู้โดยสารให้เข้าไปใช้บริการสถานีกลางบางซื่อตามเป้าหมายที่กำหนด รฟท.ยังอยู่ระหว่างเปิดให้บริษัทเอกชนร่วมพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานีกลางบางซื่อ และพื้นที่โดยรอบ ซึ่งที่ผ่านมาเปิดประกวดราคาไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่มีเอกชนรายใดสนใจ จึงปรับเปลี่ยนรายละเอียดใหม่ เพื่อเปิดประกวดราคาอีกครั้ง
“วรวุฒิ มาลา” รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท.ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน รฟท.อยู่ระหว่างร่างรายละเอียดการประกวดราคา สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ขนาดที่ดิน 32 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดประกวดราคาไปแล้วแต่ไม่มีเอกชนสนใจยื่นข้อเสนอ จึงนำกลับมาเปิดรับฟังความคิดเห็นเอกชน (มาร์เก็ตซาวดิ้ง) และเตรียมเปิดประกวดราคาครั้งสุดท้าย เตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.วันที่ 17 กันยายนนี้ เพื่อประกาศขายซอง
การประกวดราคาสถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ไม่ได้รับการตอบรับจากเอกชน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีรางรถไฟคร่อม ทำให้ยากต่อการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เบื้องต้น รฟท.จึงจะเสนอให้บอร์ดพิจารณาแนวทางควบคู่ โดยเสนอขออนุมัติเพื่อทำการศึกษาเปิดประกวดราคาแปลงเอ ไปพร้อมกับแปลงอี โดยจะประกวดราคาพร้อมกันนี้ ภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐปี 2562 ซึ่งมีข้อกำหนดให้ รฟท.เปิดประกวดราคาได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือคณะกรรมการพีพีพี ดังนั้นจะทำให้กระบวนการจัดหาเอกชนร่วมลงทุนสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น วราวุฒิแจงถึงแนวทางแก้ปัญหา
“อย่างไรก็ตาม นอกจากการหาผู้เข้ามาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์แล้ว รฟท.ยังมีปัญหาที่อาจจะทำให้การเปิดให้บริการไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ คือ เรื่องการเพิ่มขึ้นของงบประมาณก่อสร้าง 10,345 ล้านบาท ที่ทำให้กระทรวงคมนาคม และรฟท.ต้องเร่งหาข้อสรุปเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด” รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รฟท.สรุป
ด้าน “นิรุฒ มณีพันธ์” ผู้ว่าการ รฟท. เสริมว่า กระทรวงคมนาคมให้ รฟท.ไปหาที่มาของการเพิ่มงบประมาณการเปลี่ยนแปลงงาน (Variation order:VO) ที่มีงานก่อสร้างเพิ่มขึ้นกว่า 10,345 ล้านบาทในโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิตนั้น โดย รฟท.ได้ขอความเห็นไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อตีความว่างานที่เพิ่มขึ้นกว่า 194 รายการ มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท ในสัญญาที่ 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อว่าผู้มีอำนาจในการสั่งงานสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ซึ่งวงเงินในสัญญาที่ 1 เป็นส่วนหนึ่งของวงเงินรวมที่ 10,345 ล้านบาท ที่ รฟท.เสนอขอไป
การขอความเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นเรื่องงบประมาณที่เพิ่มเติมในสัญญาที่ 1 เท่านั้น ส่วนงานในสัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงบางซื่อ-รังสิต และสัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณ ที่เพิ่มขึ้นทาง รฟท.ไม่ได้ส่งอัยการตีความ เนื่องจากเป็นงานที่เปลี่ยนแปลงงานที่ยังไม่ได้มีการก่อสร้าง แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน รฟท.จะรอผลการตีความจากอัยการสูงสุดก่อนถึงจะดำเนินการต่อไป
“ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ รฟท.ได้สรุปตัวเลขงบประมาณเพื่อยืนยันวงเงินที่จะให้กระทรวงคมนาคมเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อมาใช้ในโครงการส่วนเพิ่มเติมนั้น ยังคงเป็นตัวเลขที่ 10,345 ล้านบาทเช่นเดิม ไม่ได้มีการตัดวงเงินลง หรือตัดรายการลงแต่อย่างใด และยืนยันว่าโครงการสายสีแดงจะยังเปิดให้บริการในปี 2564” ผู้ว่าการ รฟท.ยืนยันอย่างมั่นใจ
รอดูว่า “สถานีกลางบางซื่อ” จะได้ฤกษ์ตัดริบบิ้น กดปุ่มเปิดเดินรถได้ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ หากเจอโรคเลื่อนอีก คงมีเสียงโห่ว่อนโซเชียลระลอกใหญ่ เพราะแค่มีข่าวจะเลื่อนเปิดไปปี 2566 ก็ถูกโจมตีอย่างหนัก เพราะงานก่อสร้างเสร็จเกือบหมด ขบวนรถมีพร้อม และวิ่งทดสอบแล้ว หากยังเลื่อนอีก เกรงว่าสนิมจะขึ้น กลายเป็นของเก่าป้ายแดงไปซะก่อน!!