ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่าสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งหลังปี 2559 ยังน่าเป็นห่วง เพราะแนวโน้มผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าความต้องการซื้อ ภายหลังฝนแล้งคลี่คลายทำให้ชาวนาเร่งเพาะปลูกทำให้ผลผลิตตั้งแต่เดือนกันยายน-ตุลาคม ออกมาพร้อมกันและปริมาณผลผลิตน่าจะสูงกว่าปกติ 10-20% จึงกังวลว่าข้าวจะล้นตลาดกระทบต่อราคาที่ลดลง รวมถึงประเทศผู้ส่งออกอื่นๆทั้งอินเดีย และเวียดนาม แนวโน้มผลผลิตก็มากขึ้นเช่นกัน อีกทั้งความกังวลต่อสต็อกข้าวไทยที่ยังมีมากอยู่ ขณะที่ตลาดผู้ซื้อค่อนข้างเงียบ ส่วนใหญ่รอดูสถานการณ์ผลผลิตใหม่ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 2-3% มีผลต่อต้นทุนราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 10-15 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
“ แต่ยังมั่นใจเป้าหมายส่งออกข้าวทั้งปี 9.5 ล้านตัน เพราะครึ่งปีแรกสามารถส่งออกได้แล้ว 4.99 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12% และมีมูลค่ากว่า 7.7 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% ทำให้คงเป็นผู้นำส่งออกข้าวโลก แซงอินเดียที่ส่งออกได้ 4.76 ล้านตัน และจากการประเมินของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ(ยูเอสดีเอ) ประเมินว่าไทยยังเป็นผู้นำส่งออกข้าวโลกที่ 9.8 ล้านตัน หรือส่วนแบ่งตลาด 24% รองลงมาคืออินเดีย 9 ล้านตัน และ เวียดนาม 6.9 ล้านตัน และยังเป็นผู้นำต่อเนื่องถึงปี 2560 ที่ประเมินว่าไทยจะส่งออกได้ 9 ล้านตัน อินเดีย 8.5 ล้านตัน และเวียดนาม 7 ล้านตัน “ ร.ต.ท.เจริญ กล่าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ครึ่งปีหลังปัจจัยลบจะมากกว่าปัจจัยบวก อาจทำให้ระบุไม่ได้ชัดว่าไทยจะเป็นผู้นำส่งออกข้าวเป็นปีที่ 2 คงต้องดูสถานการณ์อีก 3 เดือน ผลจากปัจจัย 1.แนวโน้มการค้าโลกและประเทศผู้นำเข้าแนวโน้มลดลง ซึ่งกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดว่าปีหน้าปริมาณค้าข้าวโลกลบ2%แต่ผลผลิตเพิ่ม 2.3% และบริโภคเพิ่มแค่ 0.4%
2.สภาพอากาศกลับสู่ภาวะปกติและอาจเกิดปรากฎการณ์ลานีญาฝนตกมาก จะทำให้เพาะปลูกข้าวได้มากขึ้น ปริมาณอาจล้นตลาดราคาตกต่ำลงอีกครั้ง ความผันผวนของค่าเงินสูง ตอนนี้บาทไทยแข็งค่าอยู่ที่ 34.50 บาท/เหรียญสหรัฐฯ เทียบกับอินเดียและเวียดนามแข็งค่ากว่า 2-3% กดดันต่อราคาส่งออกไทย ซึ่งรัฐบาลต้องดูแลค่าบาทไม่มีให้ผันผวนแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ขณะที่ไม่ควรปล่อยแข็งค่าหลุด 35 บาท/เหรียญสหรัฐฯ
“ไทยมีโอกาสส่งออกได้ 9.5 ล้านตัน ช่วงไตรมาส 3 เฉลี่ยต่อเดือนต้องส่งออก 6.5 แสนตัน และเฉลี่ยต่อเดือนในไตรมาส 4 เดือนละ 8 แสนตัน ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับปีปกติ ยกเว้นผลผลิตคู่แข่งมากและกดราคามากกว่าไทย อาจกระทบต่อส่งออกข้าวไทยอีกครั้ง เฉพาะไทยนาปีคาดว่าจะมีผลผลิตถึง 22 ล้านตันข้าวเปลือกช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ถึงมกราคมปีถัดไป ในจำนวนนี้เป็นหอมมะลิ 7 ล้านตัน ข้าวเหนียว 5 ล้านตัน ที่เหลือเป็นข้าวเปลือกเจ้า 10 ล้านตัน “ นายชูเกียรติ กล่าว
